สมัยนี้มีโซเชียลมีเดีย มีการส่งคลิปแชร์กันทั้งในแง่บวกและมุมลบ ทำให้ศาสนิกชนขาดศรัทธาในศาสนาของตนไปเยอะ คอร์สการปฏิบัติธรรมที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมเสียเงินไปเรียนกัน กลับไม่ไปเรียนกับพระ แต่เรียนกับฆราวาสที่มีชื่อเสียงและมีการสอนที่เข้าใจง่าย
อย่างหนึ่งซึ่งน่าเป็นห่วงคือเตาและเมรุเผาศพ อย่างอื่นชะลอการสร้างได้ไม่เป็นไร แต่เตาเผาศพที่เสียหายใช้เผาไม่ได้เริ่มมีจำนวนมาก เตาที่ไม่มีประสิทธิภาพก็ปล่อยควันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จากฐานข้อมูลสถิติประชากรทางการของทะเบียนราษฎร กระทรวงมหาดไทย พบว่าอัตราการเสียชีวิตของคนไทยในปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565-30 กันยายน 2566) ทั้งสิ้น 576,516 คน
ถ้าเป็นศาสนาคริสต์หรืออิสลามหรือคนไทยเชื้อสายจีนก็ฝัง แต่คนพุทธส่วนใหญ่ก็ไปเผากันที่วัด ถ้าเตาเผาไม่มี หรือมีแต่เสียใช้ไม่ได้ อันนี้ก็เป็นปัญหาสำคัญ เปิดฟ้าส่องโลกจึงสนับสนุนเตาเผาศพที่มีคุณภาพ ไม่สร้างมลภาวะ เปิดฟ้าส่องโลกขอประชาสัมพันธ์เรื่องการสร้างเตาเผาศพของสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านด่าน-ตาไทย อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่ยังไม่มีเตาและเมรุเผาศพ ชาวบ้านแถบนั้นต้องขนศพไปเผาที่วัดที่ไกลออกไป
ท่านใดที่ต้องการร่วมทำบุญเชิญที่บัญชีของสำนักสงฆ์ฯ เองเลยครับ ไม่ต้องผ่านใคร ที่ ธ.ก.ส. บัญชีเลขที่ 020231705553 ชื่อบัญชี ‘กองทุนซื้อเตาเผาศพและสร้างเมรุเผาศพ สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านด่านตาไทย’ ขออนุโมทนาบุญครับ
การยื่นขอสิทธิบัตรระหว่างประเทศตามสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) ของทั้งโลกใน ค.ศ.2023 อยู่ที่ 272,600 ฉบับ อันดับ 1 คือจีน 69,610 ฉบับ รองลงมาเป็นสหรัฐฯ 55,678 ฉบับ ญี่ปุ่น 48,879 ฉบับ เกาหลีใต้ 22,288 ฉบับ เยอรมนี 16,916 ฉบับ ฯลฯ
...
ถ้าถามถึงบริษัทที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรมากที่สุดของโลก ก็ต้องเป็นหัวเว่ยเทคโนโลยีของจีน ครองอันดับ 1 ด้วยจำนวน 6,494 ฉบับ รองลงมาคือซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ 3,924 ฉบับ ควอลคอมม์ของสหรัฐฯ 3,410 ฉบับ มิตซูบิชิอิเล็กทริคของญี่ปุ่น 2,152 ฉบับ บีโออีเทคโนโลยีของจีน 1,988 ฉบับ และแอลจีอิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ 1,887 ฉบับ ฯลฯ
จีนมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีออกมารับใช้โลกทุกวัน อย่างเช่นตอนนี้ที่ฮือฮากันมากก็คือโดรนดับไฟที่สามารถพ่นน้ำหรือสารเคมีอย่างไม่จำกัดปริมาณ โดยมีสายเชื่อมต่อกับรถดับเพลิงและสามารถฉีดน้ำและสารเคมีได้เฉพาะจุด เทคโนโลยีของจีนทำให้กระเช้าสูงดับเพลิงแบบเก่าๆ กลายเป็นเรื่องเกะกะล้าสมัย (มีคลิปความยาว 2.28 นาที ที่หน้า Line Voom ไลน์ไอดี @ntp59)
ที่กำลังมาแรงอีกอย่างหนึ่งก็คือ China Biotechnology ที่จีนต้องการเป็นผู้นำนวัตกรรมยารักษาโรค จีนมีแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 และแผนพัฒนา Healthy China 2030 ตั้งเป้าเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตยารักษาโรคด้วย Innovative Drugs หรือนวัตกรรมยาสมัยใหม่ เป้าหมายของจีนก็คือให้บริษัทยามากกว่า 100 บริษัท มีผลิตภัณฑ์ยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก รวมถึงการสนับสนุนการทำวิจัยยาจีนและยาที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ จีนตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการให้ยารักษาโรคของจีนสามารถส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น
นวัตกรรมยารักษาโรคของจีนทำให้อุตสาหกรรมผลิตยาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพของจีนเติบโตสูง และเชื่อว่าจีนจะเป็นผู้นำนวัตกรรมการผลิตยารักษาโรคเบอร์ต้นของโลก บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพของสหรัฐฯยอมรับว่า อุตสาหกรรมยารักษาโรคของจีนแซงหน้าญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ.2016 กลายเป็นอุตสาหกรรมยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และในปีนี้ ค.ศ.2024 เชื่อกันว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯขึ้นเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตามข้อมูลของ Global Data ตลาดยาในจีนใน ค.ศ.2018 มีมูลค่ามากถึง 132 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พอถึง ค.ศ.2022 ก็เพิ่มขึ้นเป็น 209 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สิ่งที่จีนวางเป้าหมายไว้ ปรากฏว่าจีนทำได้สำเร็จลุล่วงแทบทุกเป้าหมาย.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม