เมืองเวนิสของอิตาลี เริ่มทดลองเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับจำนวน 5 ยูโร เพื่อหวังแก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง

เมืองเวนิส เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของอิตาลี เปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับนักเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับเป็นเงิน 5 ยูโร (เกือบ 200 บาท) ซึ่งเจ้าหน้าที่หวังว่า จะลดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางมาในวันที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น และทำให้เมืองนี้น่าอยู่มากขึ้น

ทางการได้ติดตั้งแผ่นป้ายแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวถึงข้อกำหนดใหม่ ที่อยู่ในช่วงขั้นตอนการทดสอบนาน 29 วัน จนถึงเดือนกรกฎาคม บริเวณนอกสถานีรถไฟหลัก และเส้นทางเข้าเมืองจุดอื่นๆ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ประมาณ 200 คน เพื่อคอยให้แนะนำเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียม โดยผ่านกระบวนการดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ด มีการตั้งซุ้มช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

เมื่อผ่านจุดเข้าที่กำหนดแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสุ่มตรวจสอบรหัสคิวอาร์โค้ด ว่านักท่องเที่ยวได้ชำระค่าธรรมเนียมแบบไปเช้าเย็นกลับแล้วหรือไม่ หรือผู้ที่ได้รับการยกเว้น โดยผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับตั้งแต่ 50 ยูโรถึง 300 ยูโร ข้อกำหนดนี้ใช้สำหรับผู้ที่เดินทางเช้าเมืองระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.00 น. เท่านั้น โดยนอกเวลาดังกล่าวสามารถเข้าได้ฟรี

ทั้งนี้ เมืองเวนิสเผชิญปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองมานานหลายปี แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ตัวเลขประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ราว 25 ล้านถึง 30 ล้านคนต่อปี รวมถึงผู้ที่เดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับนั้น ดูไม่น่าเชื่อถือ และโครงการนำร่องก็มีเป้าหมายที่จะระบุตัวเลขที่แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อช่วยจัดการปัญหานี้ได้ดีขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ทางการเมืองเวนิสระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนในเมืองเวนิสเมื่อปีที่แล้วมีจำนวน 4.6 ล้านคน ลดลง 16% จากระดับสูงสุดก่อนเกิดโควิด

...

อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนมองว่าระบบดังกล่าวอาจไม่สามารถหยุดยั้งการท่องเที่ยวแบบมวลชน และกล่าวว่าทางการจำเป็นต้องให้ความสนใจในเรื่องการเพิ่มจำนวนประชากรผู้อยู่อาศัยและบริการที่พวกเขาต้องการ

ประชาชนชาวเวนิสคนหนึ่งซึ่งร่วมในการประท้วง กล่าวว่า "ที่นี่ไม่ใช่อุทยานธรรมชาติ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ ไม่ใช่เมืองปอมเปอี นี่คือเมืองที่เราต้องต่อสู้เพื่อให้เรามีบ้านที่สามารถอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว และเราต้องเปิดร้านค้าในท้องถิ่นอีกครั้ง"

เมื่อปีที่แล้ว เวนิสมีจำนวนเตียงในโรงแรมที่พักเกินจำนวนประชากรของเมืองเป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ต่ำกว่า 50,000 คนในย่านเมืองเก่าที่มีลำคลองอันงดงาม

เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวของเวนิสกล่าวว่า มีผู้ชำระเงินเพื่อดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ด แล้วประมาณ 6,000 ราย โดยผู้ที่เดินทางมาแบบไปเช้าเย็นกลับเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) คาดว่าจะสูงถึงประมาณ 10,000 ราย

มีผู้ดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดที่แสดงถึงการได้รับการยกเว้นแล้วมากกว่า 70,000 ราย รวมถึงผู้ที่ทำงานในเวนิสหรือผู้อยู่อาศัยในภูมิภาคเวเนโต ส่วนผู้ที่พักในโรงแรมในเวนิส รวมถึงพื้นที่ในเขตแผ่นดินใหญ่ เช่น มาร์เกรา หรือเมสเทร ควรขอรับรหัสคิวอาร์โค้ดเพื่อยืนยันการเข้าพัก ซึ่งรวมถึงภาษีโรงแรมด้วย

เจ้าหน้าที่เวนิสกล่าวว่า ความสนใจในโครงการนำร่องของเวนิสได้รับความสนใจจากเมืองแห่งอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวมวลชน รวมถึงเมืองอื่นๆ ในอิตาลี และเมืองต่างๆ ในต่างประเทศ เช่น บาร์เซโลนา และอัมสเตอร์ดัม.

ที่มา AP

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign