การไต่สวนคดีอาชญากรรมครั้งแรกของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวแถลงเปิดคดี ขณะที่อัยการเบิกตัวพยานคนแรก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เม.ย. 2567 อัยการและทนายความของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคำแถลงเปิดคดี ที่ศาลอาชญากรรมเมืองแมนฮัตตัน เพื่อเริ่มการไต่สวนคดีจ่ายเงินปิดปาก ของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเป็นทางการ โดยฝ่ายอัยการเบิกตัวพยานคนแรกขึ้นให้การ
นี่นับเป็นการเริ่มการไต่สวนครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่อดีตประธานาธิบดีตกเป็นจำเลยในคดีอาญา
ในวันจันทร์ ทั้งสองฝ่ายได้โอกาสบรรยายทฤษฎีของตัวเองเกี่ยวกับคดีให้คณะลูกขุนฟัง โดยฝ่ายอัยการบอกกับลูกขุนว่า การจ่ายเงินปิดปากให้แก่ น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของการสมคบคิดที่มีขนาดใหญ่กว่า เพื่อส่งชักจูงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2559 ด้วยการปิดบังข้อมูลเสียหายของนายทรัมป์
“จำเลยโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนอาชญากรรมเพื่อทุจริตการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2559” อัยการแมทธิว โคลแองเจโล บอกกับคณะลูกขุน “จากนั้น เขาจึงปกปิดการสมคบคิดกระทำความผิด ด้วยการโกหกในบันทึกการทำธุรกิจในนิวยอร์ก ครั้งแล้วครั้งเล่า”
นายโคลแองเจโล บอกด้วยว่า นายทรัมป์ ร่วมกับนายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายของเขา และนายเดวิด เพ็คเกอร์ อดีตซีอีโอบริษัทสื่อ ‘อเมริกัน มีเดีย อิงค์’ (AMI) พยายามปกปิดข้อมูลที่สร้างความเสียหายได้ดังกล่าว ไม่ให้ถูกเปิดเผยออกมาระหว่างการเลือกตั้งครั้งนั้น
นายท็อดด์ บลังเช ทนายความของนายทรัมป์ เริ่มกล่าวแถลงเปิดคดีด้วยประโยคสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า “นายทรัมป์เป็นผู้บริสุทธ์” ก่อนจะบอกคณะลูกขุนว่า เรื่องราวไม่ได้ง่ายอย่างที่อัยการบรรยาย และนายทรัมป์ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างบันทึกทางธุรกิจทั้ง 34 ฉบับ ที่เขาถูกฟ้องร้องว่าทำปลอมขึ้นมา
...
ทนายความฝ่ายจำเลยชี้ด้วยว่า ไม่มีอะไรผิดกฎหมายในการลงนามข้อตกลงโดยไม่มีการเปิดเผย หรือการพยายามใช้อิทธิพลกับการเลือกตั้ง “ผมขอเตือนสปอยล์ไว้ก่อน ไม่มีอะไรผิดในการพยายามใช้อิทธิพลกับการเลือกตั้ง มันคือสิ่งที่เรียกว่า ประชาธิปไตย”
นายบลังเชยังพยายามหักล้างความน่าเชื่อถือในคำให้การของนายโคเฮน ที่สารภาพว่าปกปิดเรื่องสกปรกให้นายทรัมป์ ร่วมถึงเรื่องการจ่ายเงินปิดปากให้ น.ส.แดเนียลส์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดผลของคดีนี้ โดยเขาโจมตีนายโคเฮนว่า ยึดติดกับการพยายามเอาคืนนายทรัมป์ และเมื่อคืนยังโพสต์ข้อความเกี่ยวกับนายทรัมป์อยู่เลย
“ความเป็นอยู่ทางการเงินของเขาทั้งหมด ขึ้นอยู่การทำลายโดนัลด์ ทรัมป์ คุณไม่สามารถมีการตัดสินใจอย่างจริงจังเกี่ยวกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยพึ่งพาคำพูดของ ไมเคิล โคเฮน ได้” นายบลังเชยังบอกให้คณะลูกขุนใช้สามัญสำนึก แล้วพวกเขาจะพบว่า นายทรัมป์ไม่มีความผิด
ต่อมา อัยการเบิกตัว นายเดวิด เพ็คเกอร์ ขึ้นมาเป็นพยานปากแรกในคดีนี้ โดยเขาให้การได้ไม่ถึง 30 นาที ในช่วงเช้าวันจันทร์ ก่อนที่ศาลจะสั่งเลื่อนการไต่สวนออกไป โดยคาดว่าเขาจะได้ให้การต่อในวันอังคารนี้
อนึ่ง นายโคลแองเจโล กล่าวหานายเพ็คเกอร์ในแถลงการณ์เปิดคดีของเขาว่าเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดของนายทรัมป์ อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า อดีตซีอีโอของ AMI ผู้นี้คือตัวละครสำคัญในแผนการที่เรียกว่า ‘catch and kill’ เพื่อควบคุมการให้ข้อมูลแก่สังคมเกี่ยวกับตัวเขา ก่อนที่การเลือกตั้งจะมาถึง
อัยการ กล่าวหาว่า การพบปะกันระหว่างนายเพ็คเกอร์กับนายโคเฮนที่ตึก ทรัมป์ ทาวเวอร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2558 คือจุดเริ่มต้นของการสมคบคิด ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อหาอาชญากรรมแก่นายทรัมป์ในท้ายที่สุด โดยนายเพ็คเกอร์ตกลงว่าจะเป็นหูเป็นตาให้แก่แคมเปญหาเสียงของนายทรัมป์ และคอยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวในแท็บลอยด์ของเขา
แผนการดังกล่าวมี 3 ส่วน AMI จะเผยแพร่เรื่องราวชื่นชมนายทรัมป์ ขณะที่เผยแพร่ข่าวโจมตีคู่แข่งทางการเมืองของเขา และ “ฆ่า” ข่าวเชิงลบที่อาจสร้างความเสียหายแก่แคมเปญของนายทรัมป์ออกไป จนเป็นที่มาของชื่อแผนการ catch and kill (จับและฆ่า) และเป็นแกนหลักในแผนสมคบคิดทั้งหมด
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn