เมื่อวันที่ 2 เม.ย. สถาบันวิจัยยูซอฟ-อิสฮากของสิงคโปร์ เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นพลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 2,000 คน ระหว่างช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อจัดทำรายงาน “รัฐแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ฉบับที่ 6 โดยผลปรากฏว่า เป็นครั้งแรกที่ความนิยมในรัฐบาลจีนแซงหน้ารัฐบาลสหรัฐฯ ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าจีนน่าคบหาในอัตรา 50.5% ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 38.9% ขณะที่สหรัฐฯถูกมองว่าน่าคบหาในอัตรา 49.5% ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 61.1%
รายงานของสถาบันวิจัยสิงคโปร์ระบุว่า ความนิยมในรัฐบาลจีนที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของโครงการแถบและเส้นทาง เบลต์ แอนด์ โรด ส่วนเหตุที่ความนิยมในรัฐบาลสหรัฐฯลดลงมีปัจจัยส่วนหนึ่งจากการที่อาเซียนมีประชากรมุสลิมจำนวนมาก และหลายคนเริ่มรู้ซึ้งกับนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯต่อรัฐบาลอิสราเอลและสถานการณ์ในฉนวนกาซา รายงานยังบ่งชี้ว่าทัศนคติเอนเอียงไปทางจีนเริ่มมีมากขึ้นในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย บรูไน และลาว แต่มุมมองในเรื่องอิทธิพลของจีนกลับสวนกระแสกับความนิยมในรัฐบาลจีน ผู้ตอบแบบสอบถามที่ยังไม่ไว้ใจจีนส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า จีนสามารถใช้อิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจคุกคามอธิปไตยของประเทศอื่นๆ.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่