ฮ่องกงผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ โดยระบุว่าเป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า กฎหมายนี้จะถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิของชาวฮ่องกงมากขึ้นไปอีก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภานิติบัญญัติของฮ่องกง ผ่าน “กฎหมายปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ” หรือที่เรียกกันในชื่อว่า ‘มาตรา 23’ แล้ว ในวันอังคารที่ 19 มี.ค. 2567 ซึ่งจะให้อำนาจรัฐบาลฮ่องกงลงโทษผู้กระทำผิดในข้อหา ก่อกบฏ, ก่อจลาจล, ก่อวินาศกรรมอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ, การแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกงโดยต่างประเทศ และขโมยความลับของรัฐ
ฮ่องกง เคยพยายามผ่านร่างกฎหมาย มาตรา 23 มาแล้วในปี 2546 แต่ถูกประท้วงต่อต้านอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม กฎหมายถูกเสนอเข้าสู่สภาอีกครั้งเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม หลังจากมีการปรึกษาหารือ รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายเพียง 1 เดือน และสมาชิกสภาก็ใช้เวลาทบทวนกฎหมายเพียงไม่กี่วัน
มาตรา 23 เป็นกฎหมายความมั่นคงฉบับที่ 2 ที่บังคับใช้ในฮ่องกง นับตั้งแต่รัฐบาลกลางของจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (NSL) ปี 2563 ซึ่งเอาผิดพฤติกรรมทุกอย่างที่ถือว่าเป็น การปลุกระดมฝูงชนต่อต้านรัฐบาล เพื่อแยกฮ่องกงออกจากจีน, การบ่อนทำลายอำนาจรัฐบาลกลาง, การก่อการร้าย โดยใช้ความรุนแรงหรือการข่มขู่ และสมคบคิดกับต่างชาติ หรือขุมอำนาจจากภายนอก มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
การบังคับใช้กฎหมาย NSL ในปี 2563 ทำให้เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ประท้วงที่สนับสนุนประชาธิปไตยที่ออกมาชุมนุมกันนานหลายเดือน นำไปสู่การจับกุมนักเคลื่อนไหว, นักการเมือง และผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก ขณะที่อีกหลายร้อยคนต้องหลบหนีไปต่างประเทศ
ทางการฮ่องกงระบุว่า กฎหมายใหม่นี้ซึ่งจะบังคับใช้ในวันที่ 23 มี.ค. เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเพิ่มส่งเสริมกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่มีอยู่แล้ว แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกังวลว่า กฎหมายนี้จะถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของชาวฮ่องกงมากขึ้นไปอีก
...
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมาย มาตรา 23 ผู้ที่ถูกพบว่ามีความผิดฐาน ก่อกบฏ, ก่อจลาจล และบ่อนทำลายโดยมีตัวละครจากภายนอกมาเกี่ยวข้อง จะมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนผู้ที่มีความผิดฐานเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมข้อมูล และบ่อนทำลายต่างๆ รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ สามารถถูกจำคุกได้นานสุดถึง 20 ปี.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : aljazeera