นิกกี เฮลีย์ ประกาศถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว หลังแพ้ยับในศึกเลือกตั้งขั้นต้นวันซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ขณะที่โจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ กวาดชัยชนะเกือบทั้งหมด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า น.ส.นิกกี เฮลีย์ ประกาศในวันพุธที่ 6 มี.ค. 2567 ว่า เธอจะถอนตัวจากการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันไปลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว หลังจากพ่ายแพ้ต่อเนื่องในศึกวัน ‘ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์’ ซึ่งมีการเลือกตั้งขั้นต้นจัดขึ้นพร้อมกันถึง 15 รัฐ และ1 ดินแดน คือเขตปกครอง‘อเมริกัน ซามัว’

“เวลาที่จะยุติการหาเสียงของฉันมาถึงแล้ว ฉันพูดว่าฉันต้องการให้เสียงของชาวอเมริกันได้รับการรับฟัง และฉันทำตามนั้น ฉันไม่เสียใจภายหลัง” เฮลีย์กล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนที่เมืองชาร์ลส์ตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา หลังผลเลือกตั้งขั้นต้นวัน ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ออกมาว่า เธอชนะเพียงรัฐเดียวคือ รัฐเวอร์มอนต์

เธอยังกล่าวแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งร่วมพรรคของเธอ แต่ย้ำว่า เธอไม่ได้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ พร้อมเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเธอ อย่าเลือกตามคนหมู่มาก แต่ให้ตัดสินใจเอาเองว่า จะลงคะแนนให้นายทรัมป์หรือไม่ “ตอนนี้ขึ้นอยู่กับโดนัลด์ ทรัมป์ แล้ว ในการหาคะแนนโหวต จากคนในพรรคเราและนอกเหนือจากนั้น ที่ไม่ได้สนับสนุนเขา”

โดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน
โดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน

...

ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่างกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคของตัวเอง ในวันซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ซึ่งเป็นศึกชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคที่ใหญ่ที่สุด และดูเหมือนว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2567 นี้ จะเป็นการรีแมตช์ การโคจรมาชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ระหว่างนายไบเดนกับนายทรัมป์อีกครั้ง เหมือนเมื่อปี 2563

ในศึกเลือกตั้งขั้นต้นวันซุปเปอร์ทิวส์เดย์ ทั้งนายไบเดนและนายทรัมป์ต่างมีสัญญาณของสิ่งที่อาจเป็นจุดอ่อนในการเลือกตั้งของพวกเขา โดยกลุ่มผู้โหวตหัวก้าวหน้า เลือกกาช่อง ‘ไม่ยอมรับ’ (uncommitted) ขณะที่บัณฑิตแถบชานเมืองเลือกลงคะแนนให้นางเฮลีย์มากกว่านายทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองมีเรื่องให้ฉลองมากกว่า โดยนายทรัมป์ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือ delegate เพิ่มอีก 617 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 893 คะแนน ใกล้ถึงเป้าหมาย 1,215 คะแนนที่ต้องไปให้ถึงเพื่อได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

ส่วนไบเดน ถึงแม้จะมีผู้โหวตไม่ยอมรับมาก แต่เขาก็ยังกวาดคะแนนเสียงในรัฐต่างๆ ไปกว่า 80% ทิ้งคู่แข่งร่วมพรรคที่แทบไม่มีใครรู้จักไปแบบไม่เห็นฝุ่น

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn