เมื่อวันที่ 3 มี.ค. กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันเปิดเผยว่า โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในไต้หวันเริ่มทดลองโครงการเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้สิทธิขอพักการเรียนอยู่บ้าน เพื่อปรับสภาพจิตใจ ลดความเครียด โดยใน 1 เทอมสามารถใช้สิทธิได้สูงสุด 3 วัน แต่มีเงื่อนไขคือต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเซ็นรับรอง มาตรการดังกล่าวมีโรงเรียนมากกว่า 40 แห่ง สนใจเข้าร่วม โครงการ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาอัตราการฆ่าตัวตายในวัยรุ่นที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงปัญหาความเครียดสะสม และโรคซึมเศร้า

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2565 อัตราการฆ่าตัวตายในช่วงอายุ 15-24 ปี ได้พุ่งสูงเป็นเท่าตัว และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการฆ่าตัวตายของคนทุกช่วงอายุจะเริ่มลดลง ขณะที่ผลสำรวจของมูลนิธิไชล์ เวลแฟร์ ในไต้หวันพบว่า เด็กนักเรียนราว 12% (ส่วนใหญ่มัธยมปลาย) ยอมรับว่าอยู่ในภาวะเครียดรุนแรง โดยปัจจัยความเครียดหลัก 3 ประการคือการบ้าน ทิศทางอนาคต และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม มีนักเรียนบางส่วนมองว่า การให้พักเรียนไม่น่าช่วยเรื่องสภาพจิต เป็นแค่การหนีจากความจริง เพราะสุดท้ายอยู่บ้านก็ต้องเรียนอยู่ดี และพ่อแม่หลายคนคงไม่เห็นด้วยในเรื่องหยุดพัก.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่