• ภาพลามกอนาจารปลอมของนักร้องสาวชื่อดัง "เทย์เลอร์ สวิฟต์" กำลังถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ ทำให้นักร้องสาวคนนี้ตกเป็นเหยื่อคนดังรายล่าสุด และโด่งดังที่สุดของภัยพิบัติโลกไซเบอร์ ที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีและกลุ่มต่อต้านการละเมิดต่างกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางแก้ไข
  • ทางด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า กรณีการเผยแพร่ภาพที่โจ่งแจ้งทางเพศที่สร้างโดย AI ล่าสุดนี้ "น่าตกใจ" อย่างมาก และยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข 
  • ขณะเดียวกันมีความกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนหลายพันล้านคนจะต้องลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในปีนี้ทั่วโลก ขณะที่สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน robocall ปลอมที่อ้างว่ามาจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้จุดชนวนให้เกิดการสอบสวน

ภาพลามกอนาจารปลอมของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ในขณะที่บริษัท X ได้ลดทีมงานตรวจสอบเนื้อหาลงอย่างมาก นับตั้งแต่นายอีลอน มัสก์ เข้ามารับตำแหน่งแพลตฟอร์มในปี 2022

กรณีที่เกิดขึ้นพบว่ากลุ่มแฟนคลับ "สวิฟตี้" ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ร่วมมือกันเข้ามาจัดการด้วยตนเอง โดยระดมพลอย่างรวดเร็วและเปิดฉากการตอบโต้บนแพลตฟอร์ม X ด้วยแฮชแท็ก #ProtectTaylorSwift เพื่อเติมเต็มภาพลักษณ์เชิงบวกของป๊อปสตาร์รายนี้ และช่วยกันรายงานบัญชีที่แชร์ภาพ Deepfakes ของนักร้องสาว

ทางด้าน Reality Defender กลุ่มตรวจจับ Deepfake เปิดเผยว่า ได้ติดตามสื่อลามกอนาจารที่ไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งแสดงให้เห็นภาพของเทย์เลอร์ สวิฟต์ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน X รูปภาพบางภาพยังถูกแชร์ไปยัง Facebook ที่เป็นเจ้าของ Meta และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ขณะที่ทาง Meta ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้ประณามเนื้อหาที่ปรากฏในบริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ และได้ดำเนินการเพื่อลบเนื้อหาดังกล่าวออกและยังคงตรวจสอบแพลตฟอร์มสำหรับเนื้อหาที่ละเมิดนี้ และจะดำเนินการตามความเหมาะสมตามความจำเป็น

...

Deepfake คืออะไร

Deepfake เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการสร้างรูปภาพ หรือวิดีโอ ของใครบางคน โดยจัดการกับใบหน้าหรือร่างกายของพวกเขาออกมาอย่างสมจริงจนแทบจะแยกไม่ออก การศึกษาในปี 2023 พบว่าการสร้างภาพ Deepfke ที่ปรับแต่งแล้วเพิ่มขึ้นมากถึง 550% ตั้งแต่ปี 2019 

ขณะที่บริษัท State of Deepfakes เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ภาพอนาจารประกอบด้วย Deepfakes ส่วนใหญ่ที่โพสต์ทางออนไลน์ จะเป็นรูปผู้หญิง คิดเป็น 99%

ในอังกฤษ การแชร์ภาพอนาจาร Deepfake กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติความปลอดภัยออนไลน์ในปี 2023

แต่ในปัจจุบันสหรัฐฯ ไม่มีกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ต่อต้านการแบ่งปันหรือการสร้างภาพ Deepfake แม้ว่าจะมีความเคลื่อนไหวในระดับรัฐเพื่อแก้ไขปัญหานี้ก็ตาม

โดยเมื่อปีที่แล้ว ตัวแทนพรรคเดโมแครตได้เปิดเผยร่างกฎหมายป้องกันการปลอมแปลงภาพ และการแชร์ภาพอนาจารแบบ Deepfake โดยไม่ได้รับความยินยอม ให้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในประเด็นนี้ โดยระบุว่า รูปภาพและวิดีโอสามารถก่อให้เกิดความเสียหายทางอารมณ์ การเงิน และชื่อเสียงอย่างไม่หวนคืนได้ และน่าเสียดายที่ผู้หญิงได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรม

ทำเนียบขาวยอมรับว่า "น่าตกใจ"

คารีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯ รู้สึกตื่นตระหนกตกใจอย่างมากกับรายงานข่าวการเผยแพร่ภาพปลอมของนักร้องสาวชื่อดัง พร้อมระบุว่า บ่อยครั้งที่เรารู้ว่าการบังคับใช้กฎหมายหละหลวม ส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิงและเด็ก ที่ตกเป็นเป้าหมายของการล่วงละเมิดทางออนไลน์

โฆษกฯ ระบุว่า ในขณะที่บริษัทโซเชียลมีเดียตัดสินใจอย่างอิสระเกี่ยวกับการจัดการเนื้อหา รัฐบาลก็เชื่อว่าพวกเขามีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้กฎเกณฑ์ของตัวเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลที่ผิด และภาพส่วนตัวที่ไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลจริง

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารเกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์ โดยพยายามสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของบริษัทเทคโนโลยีล้ำสมัย กับความมั่นคงของชาติและสิทธิผู้บริโภค โดยไบเดนกล่าวว่า AI กำลังขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วสูง และเป็นดาบสองคมที่มีทั้งศักยภาพมหาศาลและอันตรายด้วย

...

ทางด้านอีเว็ตต์ ดี คาล์ก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ และเธอตั้งข้อสังเกตว่าผู้หญิงตกเป็นเป้าหมายของเทคโนโลยีนี้มานานหลายปีแล้ว พร้อมเสริมว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ทำให้การสร้าง Deepfake นั้นง่ายกว่าเดิมมาก

ขณะเดียวกันทอม คีน จูเนียร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน เห็นด้วย โดยกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าเทคโนโลยี AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเกินความจำเป็น และไม่ว่าเหยื่อจะเป็นเทย์เลอร์ สวิฟต์ หรือคนหนุ่มสาวทั่วไปในสหรัฐฯ เราจำเป็นต้องสร้างมาตรการป้องกันเพื่อต่อสู้กับกระแสที่น่าตกใจนี้

รัฐบาลจีนออกร่างกฎหมายควบคุม Deepfake

สำหรับที่จีน ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ออกร่างกฎหมายควบคุมการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเลียนแบบมนุษย์จนสมจริง หรือเทคโนโลยี "การสังเคราะห์สื่อในเชิงลึกเพื่อเลียนแบบมนุษย์" (Deep Synthesis Technology) ตั้งแต่การสนทนา การเขียนข่าว แชตบอต รวมไปถึงการปลอมแปลงเสียงและใบหน้า 

กฎหมายของจีนระบุว่า ใครที่สร้างวิดีโอคอนเทนต์ขึ้นมา ถ้าไม่มีการทำสัญลักษณ์บ่งบอกอย่างชัดเจน เช่น ลายน้ำ หรือพยายามแต่งรูปเพื่อปกปิดลายน้ำให้สาธารณชนเข้าใจผิด จะมีความผิด โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม ปีที่แล้ว

...

ร่างกฎหมายต่อต้าน Deepfake ของจีน มีขึ้นเพื่อป้องกันการทำลายความมั่นคงรัฐ สร้างข่าวปลอม ภาพอนาจาร หรือใช้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและทรัพย์สินทางปัญญา แต่หากเป็นการให้บริการเทคโนโลยีเหล่านี้แก่ผู้อื่น ผู้ให้บริการต้องทำหน้าที่ควบคุมการใช้งาน แจ้งเตือนผู้ใช้ว่ามีความรับผิดชอบอะไรบ้าง และหยุดให้บริการหากมีการใช้งานในทางที่ผิด ที่สำคัญคือการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ต้องแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์

การออกกฎหมายฉบับนี้มีขึ้นหลังจากในจีนมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างคอนเทนต์เลียนแบบมนุษย์ที่เริ่มสมจริงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งการสร้างวิดีโอปลอมอย่างสมจริง รวมไปถึงปลอมงานวิจัยต่างๆ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนอย่างมาก.