เจ้าชายแฮร์รี่ เมแกน ทำเซอร์ไพรส์ไปร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ที่จาเมกา ขณะที่กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3 พระราชบิดา ทรงเตรียมเข้ารับการผ่าตัด ส่วนเจ้าหญิงเคททรงพักฟื้นที่โรงพยาบาลในลอนดอน หลังผ่าตัดช่องท้อง

เมื่อ 24 ม.ค.2567 เดลี่เมลรายงาน เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์ ทำผู้คนประหลาดใจไปตามๆ กัน เมื่อทั้งคู่ได้เดินทางไปร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์  Bob Marley : One Love ที่ Carib Theatre ในกรุงคิงส์ตัน เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจาเมกา เมื่อคืนวันอังคารที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น 

เจ้าชายแฮร์รี่ พระชนมายุ 39 พรรษา ทรงสวมเสื้อสูท และเสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ติดกระดุมเม็ดบน ทรงจับมือชายาเมแกน ซึ่งสวมชุดราตรีสีดำ เดินเข้างานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งนับเป็นการออกงานคู่ด้วยกันครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ชมคลิป :ที่นี่ 1,2

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษเตรียมเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการต่อมลูกหมากโตในสัปดาห์นี้ ขณะที่เจ้าหญิงแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์​ทรงอยู่ระหว่างพักฟื้นในโรงพยาบาลที่กรุงลอนดอน หลังทรงข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง เมื่อ 16 มกราคม 2567
กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษเตรียมเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการต่อมลูกหมากโตในสัปดาห์นี้ ขณะที่เจ้าหญิงแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์​ทรงอยู่ระหว่างพักฟื้นในโรงพยาบาลที่กรุงลอนดอน หลังทรงข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง เมื่อ 16 มกราคม 2567

...

นอกจากนั้น เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้ถ่ายรูปร่วมกับ ‘ไบรอัน ร็อบบินส์’ ประธาน และ CEO ของบริษัทสร้างภาพยนตร์ Paramount Picture และ Nickelodeon  พร้อมทั้ง ภรรยา ‘เทรซี เจมส์’ จนเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนถูกมองว่าทั้งสองกำลังพยายามมองหาบริษัทใหม่ที่จะทำงานด้วย หลังจากไม่ประสบความสำเร็จกับ Spocify และNetflix

เดลี่เมล ชี้ว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ซึ่งพำนักอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง  Bob Marley : One Love ขณะสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระราชบิดา ทรงเตรียมเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการต่อมลูกหมากโตในสัปดาห์นี้ อีกทั้ง เจ้าหญิงแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม  ซึ่งพระเชษฐนี (พี่สะใภ้) ของเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงอยู่ระหว่างการพักฟื้นที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน หลังทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา

ติดตามอ่านข่าว ‘ราชวงศ์อังกฤษ’ ได้ที่นี่

ที่มา : Dailymail