ท่องเที่ยวเนปาลเชิงวิถีพุทธ

คนไทยเวลาไปเที่ยวเนปาลจะคิดถึง 2 สิ่งคือ สังเวชนียสถาน กับ เทือกเขาหิมาลัย ในมุมของสายธรรมะ จุดหมายปลายทางยอดนิยมของพุทธศาสนิกชนอยู่ที่ “สิทธัตถะนคร” หรือ “ลุมพินีวัน” สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า เป็นสังเวชนียสถานแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในประเทศเนปาล อีก 3 สังเวชนียสถานล้วนอยู่ในประเทศอินเดีย

“สิทธัตถะนคร” หรือ “ลุมพินีวัน” ในครั้งพุทธกาลเป็นสวนป่าตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ ปัจจุบันทางการเนปาลเรียกสถานที่นี้ว่า “รุมมินเด” เนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ มีถาวรวัตถุสำคัญทางพุทธศาสนาคือ เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช และ วิหารมายาเทวี ซึ่งมีภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรส เป็นวิหารเก่าแก่ร่วมสมัยกับเสาหินพระเจ้าอโศก ลุมพินีวันได้รับการขึ้นทะเบียน มรดกโลกทางวัฒนธรรม ของยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 2540

สังเวชนียสถานอีก 3 แห่งที่อยู่ในอินเดีย ประกอบไปด้วย “พุทธคยา” สถานที่ ตรัสรู้ อยู่ที่รัฐพิหาร มีเจดีย์พุทธคยาเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับในช่วงเวลาตรัสรู้ และพระแท่นวัชรอาสน์ ที่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างขึ้นเพื่อบูชาสถานที่บำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า

“สารนาถ” ในรัฐอุตตรประเทศ เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้า แสดง ปฐมเทศนา แก่พระปัญจวัคคีย์ สมัยพุทธกาล เรียกว่าอิสิปตนมฤคทายวัน มีธัมเมกขสถูปเป็นสัญลักษณ์สำคัญ และ “กุสินารา” สถานที่ ปรินิพพาน ในรัฐอุตตรประเทศ มีสัญลักษณ์สำคัญคือ มหาปรินิพพานสถูป และมหาปรินิพพานวิหาร ที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน

สำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย ใฝ่ฝันไปเนปาลเพื่อ พิชิตยอดเขาสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะเอเวอเรสต์ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก คุณวิทิตนันท์ โรจนพานิช เป็นคนไทยคนแรกที่พิชิตเอเวอเรสต์ได้ในปี 2551 ทพญ.นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ เป็นหญิงไทยคนแรกที่ทำสำเร็จในปี 2559 และล่าสุดเมื่อปี 2566 พญ.มัณฑนา ถวิลไพร เป็นคนไทยคนที่ 3 ที่ทำสำเร็จ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังนิยมไป เทรกกิ้ง (Trekking) เดินเท้าไปตามเส้นทางต่างๆของเทือกเขา หิมาลัย โดยเฉพาะเส้นทาง ABC (Annapurna Base Camp) อันนาปุรณะ เบส แคมป์ ซึ่งใช้เวลาไม่มากราว 7-10 วัน ได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ และฝึกฝนร่างกายรวมถึงจิตใจให้เข้มแข็งไปพร้อมกัน

ปีนี้ สถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย และ ภาคีภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของเนปาล เปิดตัว เส้นทางต้นแบบเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเนปาลเชิงวิถีพุทธ หรือ Recharge & Reborn 2024 ถือเป็นการเปิดศักราชด้านการท่องเที่ยวของเนปาลอีกครั้ง หลังจากซบเซาอยู่ระยะหนึ่งจากผลพวงของโควิด เป็นการรวมเอาจุดเด่นการท่องเที่ยวสายธรรมะและสายผจญภัยมารวมกันในทริปเดียว เน้นไปที่ 3 เมืองหลักคือ กรุงกาฐมาณฑุ โปขรา และสิทธัตถะนคร

กรุงกาฐมาณฑุมีมรดกโลกถึง 7 แห่ง ได้แก่ จัตุรัสกาฐมาณฑุเดอบาร์ (Kathmandu Durbar Square) พระเจดีย์พุทธนาถ (Boudhanath Stupa) วัดปาสุปาตินาถ (Pashupatinath Temple) วัดสวายัมภูนาถ (Swayambhunath Temple) จัตุรัสบัคตาปูร์ เดอบาร์ (Bhaktapur Durbar Square) วัดจังกูนารายัน (Changu Narayan Temple) และจัตุรัสปาทัน เดอบาร์ (Patan Durbar Square)

ส่วนเมืองโปขราเป็นเมืองหลักของเหล่านักปีนเขาและนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่ต้องไปตั้งต้นเตรียมตัวก่อนมุ่งสู่จุดหมายต่างๆแห่งเทือกเขาหิมาลัย เมืองนี้มีทะเลสาบเฟวา ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุด จากนั้นค่อยเลือกเอาว่าจะเทรกกิ้งหรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสู่ ABC เพื่อตื่นตาตื่นใจกับ ยอดเขามัจฉาปูชเร (Machapuchare) ที่นิยมเรียกกันว่า หางปลา (Fishtail) ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของฮินดูว่าเป็นบ้านของพระศิวะ

ใครอยากเปิดประสบการณ์ Recharge with Nature, Reborn at the Birthplace of Buddhas สร้างแรงบันดาลใจ รับพลังธรรมชาติ เติมพลังบุญ ก็ลองศึกษาข้อมูลและวางแผนเดินทางกันได้ครับ.

ลมกรด

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม