“สถานที่ท่องเที่ยว” กับ “ร้านจำหน่ายของที่ระลึก” ให้นักท่องเที่ยวซื้อหาเป็นของฝากและบันทึกการเดินทางเป็นของ “คู่กัน” อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่บ่อยครั้งที่ “ความสะดวกสบาย” ในการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวก็สร้างปัญหาและทำลายบรรยากาศอันรื่นรมย์
เช่นเดียวกับ “นครนิวยอร์ก” ของสหรัฐฯ หรือ “เดอะ บิ๊ก แอปเปิ้ล” เมืองใหญ่เปี่ยมเสน่ห์ เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลาย หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมตลอดกาล ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนมากเกิน 13 ล้านคน ก็เป็นอีกแห่งที่ประสบปัญหาความแออัดยัดเยียดจากบรรดาแผงขายสินค้าที่ระลึกทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีแย่งชิงพื้นที่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน “สะพานบรูคลิน” สะพานแขวนเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯ อายุ 141 ปี เชื่อมต่อระหว่างเกาะแมนฮัตตันและย่านบรูคลิน นอกจากจะเป็น แลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปเช็กอิน! ขณะเดียวกันยังมีสภาพเป็นห้างสรรพสินค้าความยาว 1,825 เมตร มีข้าวของสารพัดรวมทั้งอาหารให้เลือกช็อปเต็มทางเท้าเหนือแม่น้ำอีสต์ จนเบียดเสียดเสี่ยงเป็นอันตราย ทำให้ทางการนครนิวยอร์กออกกฎหมาย “ห้ามขายของบนสะพานบรูคลิน” เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นไป ยังขยายครอบคลุมไปทั่วทุกสะพานในนครนิวยอร์กทั้งหมด 789 แห่ง
กฎใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมทั้งกลุ่มสิทธิเพื่อผู้พิการที่ได้รับประโยชน์ในการใช้รถเข็นเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้สะดวกขึ้น แม้จะมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหนีไม่พ้นบรรดาผู้ค้าที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ทำมาหากินอยู่บนสะพานบรูคลินมานานเกิน 10 ปี แต่กลับต้องเสียที่ทำกินโดยไร้แผนรองรับ
...
อย่างไรก็ตาม ทางการนครนิวยอร์กหวังว่ากฎใหม่ดังกล่าวจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินเท้าได้อย่างสะดวกสบาย ยังช่วยทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบเรียบร้อย นอก เหนือไปจากความงามของทิวทัศน์ ยกระดับความประทับใจให้ผู้มาเยือน.
อมรดา พงศ์อุทัย
คลิกอ่านคอลัมน์ "หน้าต่างโลก" เพิ่มเติม