(ภาพประกอบ)
หนุ่มใหญ่ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ดับสลด เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังท้ามฤตยู ไปกระโดดบันจี้จัมพ์ที่ 'มาเก๊า ทาวเวอร์' หรือหอคอยมาเก๊า สูงสุดในโลก
สื่อต่างประเทศรายงานเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี เสียชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากท้ามฤตยู กระโดดบันจี้จัมพ์ ที่มาเก๊า ทาวเวอร์ หรือหอคอยมาเก๊า ซึ่งถือเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก และมีจุดกระโดดบันจี้จัมพ์สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
ตามรายงานข่าวของ HK01 สื่อในฮ่องกง ระบุว่า นักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นรายนี้ (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) มีอาการหายใจหอบ ก่อนจะหยุดหายใจ และแพทย์ได้แจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว หลังถูกนำตัวส่งเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Conde S. Januario เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นผู้นี้ได้ไปกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่หอคอยมาเก๊า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2566 ตามเวลาท้องถิ่น
...
HK01 ยังแจ้งด้วยว่าแพทย์ไม่พบบาดแผลบนร่างกายของชายผู้นี้แต่อย่างใด ในขณะที่ 'เอเจ แฮ็กเคตต์' บริษัทให้บริการกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่สกายพาร์ก จุดกระโดดบันจี้จัมพ์ และกิจกรรมอื่นๆ บนหอคอยมาเก๊า ได้แจ้งบนหน้าเว็บไซต์ว่า ลูกค้าที่จะมากระโดดบันจี้จัมพ์ ที่สกายพาร์ก ควรจะเปิดเผยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโรคประจำตัวของตัวเอง และเงื่อนไขอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อพนักงาน รวมทั้งภาวะหัวใจ ความดันเลือด ภาวะโรคเบาหวาน หรือเคยได้รับการผ่าตัด
ทั้งนี้ หอคอยมาเก๊า สูง 338 เมตร เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ส่วนแท่นกระโดดบันจี้จัมพ์ มีความสูงจากพื้นดิน 233 เมตร โดยผู้ที่จะมากระโดดบันจี้จัมพ์ จะต้องจ่ายเงินรายละ 2,888 ปาตากามาเก๊า ประมาณ 478 ดอลลาร์ หรือราว 12,400 บาท
ที่มา : straitstimes