ช่วงกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (ไต้หวัน) ได้มีผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่มารับตำแหน่งนามว่า “จางจวิ้นฝู” ซึ่งผู้เขียนขอกล่าวแสดงความยินดีและขอต้อนรับสู่ประเทศไทยอีกครั้งด้วยครับ

แม้จะยังไม่ได้สัมภาษณ์พูดคุยกันเป็นส่วนตัว เนื่องจากทาง ผอ.กระซิบมาทำนองว่า เคยมาประจำที่ กทม.เมื่อ 30 ปีก่อน ขอเวลาซึมซับประเทศไทยเพิ่มเติมก่อนที่จะเจอกับคำถามซอกแซกของนักข่าวไทยรัฐนะครับ แต่ทาง ผอ.จางจวิ้นฝูก็ได้ฝากแนวคิดในเรื่อง ที่ไต้หวันอยากให้ความสำคัญมากับทางเราด้วยเช่นกัน

นั่นคือการต่อสู้รับมือกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง พร้อมชูธงว่า ไต้หวันมีความสามารถทางเทคโนโลยีสีเขียว และรัฐบาลมีเป้าหมายร่วมกัน กับนานาชาติในการมุ่งสู่การลดปริมาณคาร์บอน หรือ “net-zero” ซึ่งทาง “ประเทศไทย” เอง ก็นำเสนอยุทธศาสตร์ระยะยาว ในการพัฒนาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำเมื่อ 2 ปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2608 ซึ่งก็เป็นเป้าหมายที่ไต้หวันกำลังพยายามอย่างแข็งขันเช่นกัน

ผอ.จางจวิ้นฝูมองว่าไต้หวันบังคับใช้ “กฎหมายการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยระบุเป้าหมาย net-zero ปี 2593 ไว้ในกฎหมาย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การรณรงค์ทางนโยบาย แต่เป็นการควบคุมด้วยกฎหมาย

พร้อมดำเนินการเปลี่ยนผ่าน 4 ด้านหลัก ประกอบด้วยวิทยาศาสตร์ การผลักดันด้านพลังงาน อุตสาหกรรม ชีวิตการเป็นอยู่และสังคมบนพื้นฐานของการบริหารเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและกฎหมายสภาพภูมิอากาศ พ่วงด้วยการเริ่มแผน net-zero ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีกรอบเวลาระหว่างปี 2566-2569 เพื่อให้เกิดการพัฒนาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นจริงอย่างยั่งยืนทั้งในด้านพลังงาน คาร์บอนต่ำ คาร์บอนเป็นลบ การหมุนเวียนและมนุษยศาสตร์ -สังคมศาสตร์

...

นอกจากนี้ รัฐบาลไต้หวันยังยกระดับสำนักงานรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นกระทรวงสิ่งแวดล้อม และจัดตั้งสำนักงานความเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศขึ้นใหม่ เพื่อเป็นเจ้าภาพในการรับมือและบริหารจัดการด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดก๊าซเรือนกระจก จัดทำ “รายงานการปรับตัวแห่งชาติ” เพื่อแสดงผลการสำรวจวิจัยวิทยาศาสตร์ด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัว

ไว้ตอนหน้าจะนำแนวทางของไต้หวันมาอธิบายต่อ เพราะถึงจะยังจับต้องไม่ได้ แต่เรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงย่อมมาถึงเราทุกคนไม่ช้าก็เร็ว.

ตุ๊ ปากเกร็ด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม