กลุ่มฮามาสเผยคลิปปล่อยตัวประกันชุดแรกจำนวน 24 คนให้แก่หน่วยงานกาชาดสากลแล้ว โดยในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วย 10 คน

สื่อต่างประเทศ และโลกโซเชียล ต่างเผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสพาตัวประกัน 24 คนมาส่งให้แก่กาชาดสากล ตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่อิสราเอลยอมตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน โดยจากคลิปภาพจะเห็นตัวประกันที่เป็นผู้สูงอายุมีอายุราวๆ 70-80 ปี และยังมีเด็กอายุ 2 ขวบรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้เอพียังรายงานว่ามีคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันอีก 10 คนที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ และมีชาวฟิลิปปินส์อีก 1 คน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่ตรงกับตัวเลขที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งในเบื้องต้นว่ามีคนไทยได้รับการปล่อยตัว 12 คน

ชมคลิป ที่นี่

ขณะที่ทางการอิสราเอลยอมปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จำนวน 39 คนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวประกันในครั้งนี้ด้วย
นับเป็นความคืบหน้าขั้นแรก หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้เจรจากันผ่านตัวกลางอย่างกาตาร์ รวมไปถึงอิหร่าน จนนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน หลังจากสู้รบกันมาต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

...

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศระบุว่าได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่าสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับรายงานว่ามีคนไทยจำนวน 12 คนได้รับการปล่อยตัวแล้ว ขณะนี้ได้ข้ามเข้ามาในอิสราเอลผ่านช่องผ่านแดน Rafah และอยู่ระหว่างการเดินทางไปยังจุดคัดกรองที่ฐานทัพอากาศ Hatzerim ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่ทราบเพศ และชื่อตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว

ในเบื้องต้นทั้ง 12 คนจะถูกนำไปที่โรงพยาบาล Shamir Medical Center (Assaf Harofeh) โดยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะเดินทางไปพบที่โรงพยาบาล ซึ่งทั้ง 12 คนดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ และพยาบาล โดยห้ามพบบุคคลภายนอกเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

โดยกระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับพี่น้องแรงงานไทย และครอบครัวของทั้ง 12 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากการถูกจับกุมในวันนี้ และจะเร่งนำทุกคนกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย

รัฐบาลไทยขอขอบคุณรัฐบาลกาตาร์ อิสราเอล อียิปต์ อิหร่าน มาเลเซีย และ ICRC รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาทุกฝ่ายในการช่วยเหลือตัวประกันชุดแรก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวประกันที่เหลือทั้งหมดจะได้รับการดูแล และปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด.

ที่มา: เอพี

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ "ตัวประกัน"