กลุ่มเกษตรกรในเกาหลีใต้รวมตัวประท้วงหน้ารัฐสภา เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกการเตรียมยื่นร่างกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัข ชี้ทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิม และอาจทำให้กิจการหลายพันแห่งต้องปิดตัวลง

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เหล่าเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ อาทิ เกษตรกรผู้เพาะพันธุ์สุนัขสำหรับค้าเนื้อ และเจ้าของร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อสุนัข ได้รวมตัวกันหน้ารัฐสภา ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการเตรียมยื่นร่างกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัขภายในปีนี้ อ้างการห้ามกินเนื้อสุนัขจะทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเกาหลีใต้ และยังจำกัดตัวเลือกเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค

ลี คยองซิก เจ้าของฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขนอกกรุงโซล หนึ่งในผู้ร่วมประท้วง กล่าวว่า การห้ามกินเนื้อสุนัขจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจของเขา ซึ่งหากร่างกฎหมายนี้ผ่านและมีผลบังคับใช้ในปีนี้ จะถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน และกิจการของเขาไม่สามารถปรับตัวได้ทัน เสี่ยงทำให้เขาต้องปิดกิจการของตัวเองลง

เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมยื่นร่างกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัขในประเทศต่อสภาเพื่อพิจารณาและบังคับใช้ภายในปีนี้ เพื่อหวังยุติเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ และการต่อต้านจากคนรุ่นใหม่ในประเทศ

โดยร่างกฎหมายนี้จะครอบคลุมถึงมาตรการช่วยเหลือเหล่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าเนื้อสุนัข อาทิ การกำหนดระยะเวลาผ่อนปรน 3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการปรับเปลี่ยนกิจการของตน และการให้เงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ

สมาคมผู้ประกอบการเนื้อสุนัขระบุว่า หากร่างกฎหมายห้ามกินเนื้อได้รับการอนุมัติ จะมีกิจการได้รับผลกระทบและต้องปิดตัวลงประมาณ 6,500 แห่ง โดยเป็นฟาร์มเลี้ยงสุนัข 3,500 แห่ง และร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อสุนัขอีก 3,000 แห่ง มากกว่าตัวเลขที่หน่วยงานรัฐเคยสำรวจไว้ถึงเกือบสองเท่า

...

การกินเนื้อสุนัขเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในบริเวณคาบสมุทรเกาหลีมาอย่างช้านาน และถูกมองว่าเป็นหนทางในการเอาชนะความร้อนในฤดูร้อน แต่ด้วยวิวัฒนาการของโลก และความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิของสัตว์ ทำให้การกินเนื้อสุนัขไม่เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : Reuters