อินเดียกำลังเร่งช่วยเหลือคนงาน 40 ชีวิต ซึ่งติดในอุโมงค์ถนนมานานกว่า 90 ชม.แล้ว โดยมีการติดต่อขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ รวมถึงหนึ่งในทีมกู้ภัยของไทยที่ร่วมในภารกิจถ้ำหลวง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินเดียยังคงพยายามช่วยเหลือคนงานกว่า 40 ชีวิต ที่ติดอยู่ในอุโมงค์ถนนในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งพังถล่มลงมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีการส่งเครื่องเจาะกำลังสูงโดยเฉพาะไปช่วยเหลือแล้ว

เครื่องเจาะดังกล่าวถูกส่งมาจากกรุงนิวเดลีเมื่อวันพุธ หลังจากความพยายามขุดซากอุโมงค์ที่ถล่มลงมาด้วยเครื่องจักรชนิดอื่นประสบความล้มเหลว โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเครื่องขุดนี้สามารถเจาะเปิดช่องทางให้สามารถสอดท่อเหล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 ฟุตเข้าไป แล้วให้คนงานที่ติดอยู่คลานลอดออกมาได้

ทางการอินเดียบอกกับสำนักข่าวบีบีซี ว่า พวกเขาไม่อยากคาดการณ์ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการเก็บกวาดซากปรักหักพัง แต่พวกเขาเชื่อว่าจะมีความคืบหน้าในด้านบวกเกิดขึ้นในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม นายวีเค. สิงห์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมและทางหลวงของอินเดีย คาดว่าปฏิบัติการช่วยเหลืออาจยืดเยื้อออกไป 2-3 วัน

นายกีรติ ปันวาร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานสารสนเทศเขตอุตตราคาชี ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุโมงค์แห่งนี้ เปิดเผยว่า พวกเขากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงผู้ประสบภัย รวมถึงติดต่อทีมกู้ภัยที่มีประสบการณ์ในภารกิจช่วยเหลือที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้

“เรากำลังรับความช่วยเหลือจากทีมผู้เชี่ยวชาญจากนอร์เวย์ และประเทศไทย” นายปันวาร์ กล่าว “ทีมกู้ภัยของเราติดต่อกับบริษัทของไทย ซึ่งมีส่วนในภารกิจช่วยเหลือเด็กๆ ที่ติดในถ้ำ (ถ้ำหลวง) เมื่อหลายปีก่อน” นอกจากนั้นอินเดียยังติดต่อกับสถาบันธรณีเทคนิคแห่งนอร์เวย์ (NGI) เพื่อขอคำแนะนำด้วย

...

ทั้งนี้ อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันอาทิตย์ที่ 12 พ.ย. หลังเกิดดินถล่มบนภูเขาใกล้เคียง ทำให้บางส่วนของอุโมงค์ ‘ซิลก์ยารา’ (Silkyara) พังลงมาห่างจากทางเข้าประมาณ 200 ม. กักขังคนงานราว 40 คนเอาไว้ภายใน ซึ่งทีมกู้ภัยต้องใช้ท่อเพื่อส่งออกซิเจน, รวมถึงน้ำกับอาหารเข้าไปให้คนงานประทังชีวิต

เจ้าหน้าที่ยังสามารถติดต่อกับคนงานที่ติดอยู่ได้ด้วยวิทยุมือถือ โดยทางการอินเดียยืนยันว่าทั้งหมดยังปลอดภัยดี แต่สื่อบางฉบับรายงานว่าคนงานบางคนเริ่มมีอาการปวดหัว, วิตกกังวล และคลื่นไส้แล้ว.

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn