รัฐบาลจีนมุ่งพัฒนาพื้นที่เมืองเก่า ใส่งบประมาณลงไปในเมืองเก่าอย่างมาก รัฐต้องการพัฒนาเมืองเก่าให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนจีนเอง (ทราบว่าต่อไปจะรับชาวต่างชาติด้วย) นอกจากนั้น ยังทุ่มไปที่กลุ่มชาติพันธุ์ คนจีนทั้ง 1,400 ล้าน เป็นชาวฮั่นร้อยละ 96.3 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อื่นร้อยละ 4.7 แม้กลุ่มชาติพันธุ์จะมีพลเมืองรวมไม่ถึงร้อยละ 5 ทว่าก็ได้รับงบประมาณเพื่อรื้อฟื้นวัฒนธรรมประเพณีของตนเป็นจำนวนมากทุกแห่ง
ครอบครัวของผมอยู่ที่เมืองหลินกุ้ย (ติดกับกุ้ยหลิน) เขตปกครองตนเองกว่างซี ที่นี่กำลังมีการรื้อฟื้นงานศิลปหัตถกรรม อย่างผ้าแพรของชาวจ้วงซึ่งทอจากใยสำลีและไหมห้าสีที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยถังและซ่งจนถึงสมัยชิง มีงบพิเศษมาให้โรงงานผลิตผ้าแพรของชาวจ้วงที่เมืองจิ้งซีและปินหยาง รัฐรื้อผ้าแพรให้เป็นสินค้าพื้นเมือง จากนั้นก็ให้ดีไซเนอร์ส่วนกลางนำผ้าแพรชาวจ้วงไปทำเครื่องประดับตกแต่ง เป็นภาพแขวนผนัง ผ้าม่าน ผ้าคลุมโต๊ะ เตียง โซฟา ฯลฯ
แม้แต่การแต่งกายของชาวจ้วงก็มีงบประมาณมาให้รื้อฟื้น ชาวจ้วงบางส่วนของฝั่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกว่างซีได้รับการสนับสนุนให้หันมาสวมเสื้อไม่มีปก ผ้าอกเฉียง ไปทางซ้าย ปักลวดลายตามชายขอบของแขนเสื้อ ชายเสื้อ คอเสื้อ สวมกางเกงขากว้างและใส่เครื่องประดับเงิน สนับสนุนให้จ้วงฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกว่างซี ให้มีการทอเสื้อผ้าตามแบบจ้วงโบราณที่เมืองหลงโจวและผิงเสียง อาหารการกินท้องถิ่นก็มีการรื้อฟื้นเมนูโบราณขนานใหญ่ด้วยเช่นกัน
ถามไปที่เพื่อนชาวฮาซ่าเค่อ (พวกนี้เรียกตัวเองว่าชาวคาซัค) ก็ได้ข้อมูลเหมือนกันว่ารัฐบาลส่งงบประมาณมาให้รื้อฟื้นวัฒนธรรมประเพณี ผู้หญิงคาซัคเก่งด้านการทอพรม ทอผ้าขนสัตว์ ตัดเย็บเสื้อผ้า พวกผู้ชายก็เก่งงานไม้ เหล็ก กระดูกสัตว์ เงิน ทอง และหยก แม้แต่การร้องรำทำเพลงและเต้นรำที่ใช้ตงปู้ลา (เครื่องดนตรีพื้นเมือง) ก็ได้รับงบประมาณด้วย เช่นเดียวกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆทุกเผ่า ไม่ว่าเผ่าหม่าน เผ่าน่าซี เผ่าอี๋ เผ่าเคอร์กิส เผ่าเฮ่อเจ๋อ เผ่าจิ่งโพ เผ่าลั่วปา เผ่าเต๋ออ๋าง เผ่าเฉาเสี่ยน เผ่ามองโกล เผ่าลี่ซู เผ่าจิง ฯลฯ
...
จีนมีพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง มีเครื่องจักร ทางการเกษตรที่ถูกนำมาใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์ ไร่นาขนาดใหญ่ที่เคยใช้แรงงานเป็นร้อยคน ปัจจุบันหันมาใช้เครื่องจักรทำแทน เกษตรกรเพียงคนเดียวทำสวนขนาดใหญ่หลายร้อยมู่ด้วยการบริหารจัดการจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีชั้นสูงด้านการเกษตรทำให้คนในชนบทไม่มีงานทำ คนว่างเพราะไม่มีอะไรจะทำนี่อันตรายสำหรับการเมือง ทำให้รัฐบาลต้องฟื้นขึ้นเมืองโบราณและวัฒนธรรมประเพณีมาเพื่อให้คนทำ จะได้ไม่ว่าง
งานด้านการเกษตรถูกเครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์แย่งไปทำ รัฐจึงต้องสร้างการท่องเที่ยวมาใส่ให้คนชนบทไม่ว่าง แถมยังมีเงินเพิ่มมาจากการท่องเที่ยว ตอนนี้ปล่อยเฉพาะคนจีนเที่ยวกันเองภายในก่อน เมื่อทรัพยากรการท่องเที่ยวในชนบทพัฒนาไปจนถึงระดับอินเตอร์ + เมื่อมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างเช่นพวกโรงแรม ร้านอาหาร และบุคลากรพร้อมแล้ว ก็คาดเดากันว่า รัฐบาลอาจจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
จีนกำลังจะกลายเป็นประเทศที่มี 2 บุคลิกภาพ บุคลิกภาพแรกเป็นประเทศที่มีความทันสมัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง มีความเข้มแข็งด้านอวกาศ ด้านอินเตอร์เน็ต ด้านคมนาคม ด้านดิจิทัล และเป็นประเทศแห่งภูมิปัญญา ทว่าอีกบุคลิกภาพหนึ่ง จีนเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีสูง มีความเก่าแก่ มีความหลากหลายทางเชื้อชาติเผ่าพันธุ์
20 ปีที่รัฐบาลจีนหนุนให้คนของตนออกไปท่องโลก คนจีนจากชนบทก็ออกไปกันเยอะ รัฐบาลต้องการให้คนเหล่านั้นเห็นโลกภายนอก ได้เรียนรู้หลักการการต้อนรับนักท่องเที่ยวสากล เพื่อคนจีนหลายร้อยล้านคนจะได้นำมาพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศของตนเองในอนาคต.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม