ดีไซเนอร์ไทยมัวแต่คลานต้วมเตี้ยมไม่ได้แล้ว เพราะ “แบรนด์เสื้อผ้าเวียดนาม” กำลังครองเทรนด์แฟชั่นที่มาแรงสุดๆทั่วโลก ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำไมอุตสาหกรรมเสื้อผ้าของเวียดนามถึงเด่นเด้งแซงหน้าแชมป์เก่าขึ้นมาได้ ทั้งๆที่เมืองไทยของเราพยายามแทบตายเพื่อไปสู่จุดนั้น

กระแสคลั่ง “แบรนด์เสื้อผ้าเวียดนาม” จุดติดภายในเวลาข้ามปี ก็เพราะได้รับการยอมรับจากดารานักร้องไอดอลระดับโลกจนกลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล อะไรทำให้เวียดนามสามารถเปลี่ยนตัวเองจากการอยู่เบื้องหลังเป็นฐานการผลิตเสื้อผ้าให้แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย จนกระโดดมาอยู่เบื้องหน้าถูกจับตามองในฐานะผู้นำแฟชั่นดีไซน์ที่กำลังมาแรง

ใครที่บอกว่าเวียดนามยังล้าหลังจากประเทศไทยหลายสิบปี และคนเวียดนามแต่งตัวเชยแหลก อยากให้กลับไปทบทวนดูใหม่ เพราะวันนี้แบรนด์เกาหลีและแบรนด์ไทยกำลังถูกเวียดนามชิงตลาดด้วยความสดใหม่แบ๊วๆที่ใครก็อยากลอง แถมมีให้เลือกหลากสไตล์ในราคาเอื้อมถึงได้ ที่สำคัญเวียดนามเป็นเจ้าแห่งฟาสต์แฟชั่นยุคใหม่, ทำการตลาดบนโลกโซเชียลเก่ง และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ของเวียดนามรายงานว่า รายได้จากการส่งออก สิ่งทอและเสื้อผ้าตลอดปี 2022 เพิ่มขึ้น 14.5% จากปี 2021 โดยมีมูลค่ารวมมากกว่า 3.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ถามว่า 8 ปี ภายใต้รัฐบาลลุงตู่ เวียดนามแซงหน้าไทยเรื่องอะไรบ้าง ด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนอย่างจริงจัง บวกกับค่าแรงที่ยังไม่สูงมาก และ การเมืองที่มีเสถียรภาพ ตลอดจนโครงสร้างประชากรที่อยู่ในวัยทำงานจำนวนมาก เป็นประเทศที่ยังมีความเป็นหนุ่มเป็นสาว ส่งผลให้เวียดนามสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติ แถมผู้นำระดับโลกยังตบเท้ามาเยือนเวียดนามไม่ขาดสาย

...

แม้ดูจากขนาดเศรษฐกิจ มูลค่าจีดีพีของไทยยังมีขนาดใหญ่กว่าเวียดนาม โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์จีดีพีในปี 2025 ไทยยังคงรั้งอันดับสองของอาเซียนด้วยมูลค่าจีดีพี 632.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีเวียดนามเร่งเครื่องตามมาติดๆด้วยมูลค่าจีดีพี 571.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถ้าวัดจากอัตราการเติบโตของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนแซงหน้าไทย บอกได้คำเดียวว่าอีกไม่นานเขาจะทิ้งเราแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะทุกวันนี้มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามายังภูมิภาคอาเซียนกำลังสลับขั้วแบ่งให้เวียดนามถึง 30% ส่วนพี่ไทยได้ส่วนแบ่งไม่ถึง 10%

นอกจากจะเก่งกาจเรื่องการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ชิป และเซมิคอนดักเตอร์ “แบรนด์เสื้อผ้าเวียดนาม” ยังเป็นจักรกลสำคัญในการสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจเวียดนาม ก็เพราะสาวๆทั้งโลกอยากตามรอยไอดอลแฟชั่นที่เลือกสวมใส่แบรนด์จากเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นลิซ่า, โรเซ่, จีซู และเจนนี่ จากวง “BLACKPINK” ที่เลือกใส่แบรนด์ดีไซเนอร์รุ่นใหม่เวียดนามอย่าง “Fancì Club” และ “CONG TRI” ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตใหญ่, ถ่ายเอ็มวี และออกงานสำคัญ ขณะที่นักร้องชื่อดังของไทย “โบกี้ไลอ้อน” ใส่ชุดแบรนด์เวียดนาม “L Seoul” ขึ้นคอนเสิร์ตจนเปรี้ยงปร้าง ฝั่งฮอลลีวูดดาราดังๆก็เลือกใช้เสื้อผ้าแบรนด์เวียดนามออกงานใหญ่แทนแบรนด์หรูไฮโซ นำโดย เบลลา ฮาดิด, คาเรน กิลเลน, โอลิเวีย รอดริโก, ริฮานนา และบียอนเซ่

ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแปลกตา, ดูสดใหม่, คัตติ้งเนี้ยบ, ลุคหวานๆแต่แอบเซ็กซี่, ราคาไม่แพง และมีสตอรี่เป็นจุดขาย ทำให้เกิดกระแสคลั่งแฟชั่นเวียดนามไปทั่วโลกโซเชียลภายในเวลาข้ามปี ยิ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์และแฟชั่นนิสต้าทั่วไปหันมารีวิวเสื้อผ้าแบรนด์เวียดนามแบบปากต่อปาก ยิ่งทำให้คนแห่ตามกันจนเป็นกระแส เพราะไม่อยากตกเทรนด์ การที่เวียดนามผลิตสินค้าที่มีคุณภาพคับแก้วเกินราคาได้ เพราะมีทักษะจากการเป็นฐานผลิตเก่าแก่ของสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย

ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว ถ้าไม่อยากโดนเวียดนามทิ้งห่างขึ้นเรื่อยๆ.

มิสแซฟไฟร์

คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม