แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้ามีปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาวงแหวน” (Annular Solar Eclipse) หรือรู้จักกันดีในชื่อ “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of fire) เกิดขึ้นเมื่อใด ผู้คนบนโลกก็ยังคงตื่นเต้นและเฝ้ารอดูอยู่เสมอ ซึ่งในวันที่ 14 ต.ค.นี้ แว่วว่าท้องฟ้าจะแจ่มใสและประชากรในสหรัฐอเมริกาจะได้ยลโฉม “วงแหวนแห่งไฟ” ปรากฏการณ์ท้องฟ้าที่หายาก นานๆ จะเกิดขึ้นที ซึ่งจะทำให้ท้องฟ้ามืดสลัวในช่วงเวลาสั้นๆ เหนือบางส่วนทางตะวันตกของสหรัฐฯ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

สุริยุปราคาวงแหวนถูกอธิบายว่า เมื่อดวงจันทร์อยู่ห่างจากโลกมากในขณะที่เกิดสุริยคราสก็จะทำให้ขนาดปรากฏของดวงจันทร์เล็กกว่าดวงอาทิตย์จนไม่อาจบดบังดวงอาทิตย์ได้ทั้งหมด จึงเหลือพื้นผิวบริเวณขอบดวงอาทิตย์ที่ปรากฏให้เห็น แลคล้ายวงแหวนที่ส่องสว่างสวยงาม ทว่าเป็นอันตรายหากมองด้วยดวงตาเปล่า

ส่วนเส้นทางของสุริยุปราคาวงแหวนในครั้งนี้ องค์การนาซา สหรัฐฯ ระบุว่า คราสจะทำให้เกิดแนวกว้างราว 210 กม. เริ่มต้นเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ เรื่อยๆเรียงๆ เข้าสู่สหรัฐฯ ที่รัฐโอเรกอน ช่วงประมาณ 09.13 น.ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก โดยจะบรรลุถึงขั้นสุดท้ายของวงแหวนแห่งไฟในอีก 1 ชม.ต่อมา จากนั้นคราสจะมุ่งหน้าไล่ลงผ่านรัฐเนวาดา ยูทาห์ นิวเม็กซิโก เท็กซัส แถมครอบคลุมไปถึงพื้นที่ในรัฐไอดาโฮ แคลิฟอร์เนีย อริโซนา จนถึงโคโลราโด และจะผ่านคอร์ปัส คริสตี เมืองชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ของรัฐเท็กซัสที่ตั้งอยู่บนอ่าวเม็กซิโก จากนั้นวงแหวนแห่งไฟจะตัดผ่านคาบสมุทรยูกาตันในเม็กซิโก เบลีซ ฮอนดูรัส นิการากัว คอสตาริกา ปานามา โคลอมเบีย และสุดท้ายคือบราซิล ก่อนที่จะปิดฉากเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก

...

เจ้าหน้าที่นาซาเผยว่าบางส่วนของเปอร์โต ริโก ฮาวาย และอลาสกาก็มองเห็นเช่นกัน แต่เห็น คราสเพียงบางส่วน จะไม่เห็นวงแหวนแห่งไฟ และบอกแต่เนิ่นๆว่า 8 เม.ย.2567 จะมีปรากฏการณ์ “แนวคราสเต็มดวง” คือเส้นทางที่เงาดวงจันทร์พาดผ่านพื้นผิวโลก ตั้งแต่เม็กซิโกไปถึงครึ่งของฝั่งตะวันออกในสหรัฐฯ และแคนาดา

แต่เสาร์นี้ชาวอเมริกันบางคนอาจเปิดเพลง “Ring of fire” หนึ่งในเพลงอันโด่งดังของ จอห์นนี แคช ศิลปินคันทรีระดับตำนานชาวอเมริกันผู้ล่วงลับไปพลางๆ กับการเฝ้ามอง “วงแหวนแห่งไฟ” บนฟากฟ้า!

ภัค เศารยะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม