'โมฮัมเหม็ด มูอิซซู' คู่แข่งคนสำคัญ นิยมจีน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมัลดีฟส์คนใหม่ หลังชูนโยบาย “อินเดียเอาต์” ต่อต้านการมีอิทธิพลของอินเดียเหนือมัลดีฟส์
สำนักข่าวต่างประเทศ วันที่ 1 ต.ค. 2566 รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของมัลดีฟส์รอบสอง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 30 ก.ย. 2566 ปรากฏว่า นายโมฮัมเหม็ด มูอิซซู นายกเทศมนตรีกรุงมาเล เมืองหลวงของประเทศ วัย 45 ปี ซึ่งนิยมจีน และชูนโยบาย “อินเดียเอาต์” ต่อต้านการมีอิทธิพลของอินเดียเหนือมัลดีฟส์ ได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งคนสำคัญประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด โซลีห์ ด้วยเสียงสนับสนุนถึง 54% ขณะที่ผู้นำคนปัจจุบันได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 46%
รายงานระบุ นายโซลีห์ ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ หลังได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 46% และกล่าวแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ โดยนายโซลีห์จะรักษาการตำแหน่งผู้นำประเทศจนกว่านายมูอิซซูจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ย. 2566
สำหรับการเลือกตั้งรอบแรกถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ซึ่งนายมูอิซซู ได้สร้างความประหลาดใจด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนถึง 46% สูงกว่าผู้นำคนปัจจุบันที่ได้เสียงสนับสนุนเพียง 39% อย่างไรก็ดี เสียงสนับสนุนของนายมูอิซซูก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ทำให้มัลดีฟส์ต้องจัดการเลือกตั้งรอบสองเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา
อนึ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สองในมัลดีฟส์ ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญต่อทิศทางนโยบายการต่างประเทศของมัลดีฟส์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมัลดีฟส์เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอินเดียมายาวนาน และประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างนายโซลีห์ วัย 61 ปี จากพรรคประชาธิปไตยมัลดีฟส์ (Maldivian Democratic Party: MDP) ก็ได้ดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่ตัวเขาเรียกว่า “นโยบายอินเดียต้องมาก่อน” (India-First Policy) นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในปี 2561 และประเทศมัลดีฟส์ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอินเดีย ในการเฝ้าสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวต่างๆ ในมหาสมุทรอินเดีย
...
ขณะเดียวกัน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสำคัญอย่างนายมูอิซซู วัย 45 ปี ตัวแทนจากพรรคพันธมิตรก้าวหน้า (Progressive Alliance) กลับมีนโยบายการต่างประเทศเอนเอียงไปทางจีน และสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์จีน-มัลดีฟส์ให้แนบแน่นขึ้น พร้อมชูสโลแกน “อินเดียออกไป” (India Out) ตลอดการหาเสียงเลือกตั้ง
นายมูอิซซู เคยมีบทบาทสำคัญในโครงการพัฒนาต่างๆ ของรัฐบาลชุดก่อน โดยเฉพาะการได้รับเงินทุนพัฒนาประเทศจากโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน (One Belt One Road) ซึ่งนายมูอิซซูเคยพบกับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในการพบปะกันเมื่อปีที่แล้วว่า หากพรรคของนายมูอิซซูได้เป็นรัฐบาล เขาต้องการให้มัลดีฟส์และจีนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้แผ่ขยายอิทธิพลเข้าไปยังมหาสมุทรอินเดียอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาททางทหารในแถบภูมิภาคนี้ อีกทั้งจีนยังต้องการปกป้องเส้นทางส่งออก-นำเข้าพลังงานของตนจากตะวันออกกลางในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ชาติคู่แข่งอย่างอินเดียไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
ส่งผลให้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อินเดียได้มอบเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ และเครื่องบินขนาดเล็ก 1 ลำให้กับมัลดีฟส์ ก่อนที่ในปี 2564 อินเดียจะส่งทหารเข้าไปประจำการในมัลดีฟส์ 75 นาย เพื่อปฏิบัติการดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องบินที่อินเดียส่งมอบให้
อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ทหารอินเดียเข้ามาประจำการในมัลดีฟส์นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้าน ชี้ว่าเป็นการปล่อยให้อินเดียเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของประเทศ และเรียกร้องให้กองทัพอินเดียออกจากมัลดีฟส์.
ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreign