กลายเป็นข่าวใหญ่คึกโครมอีกแล้ว เมื่อยักษ์ใหญ่อสังหาฯ เบอร์ 3 ของจีน “ซุนแอค ไชน่า โฮลดิงส์” (Sunac China Holdings) ยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ ตามรอยเบอร์หนึ่งของจีน “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” (China Evergrande Group) สร้างความหวาดหวั่นว่าจะลุกลามกลายเป็นโดมิโนล้มทั้งกระดาน

ภาคธุรกิจอสังหาฯของจีนมีสัดส่วนถึง 30% ของจีดีพีประเทศ การที่ “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” เบอร์หนึ่งอสังหาฯของจีนยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จึงสร้างความสะพรึงว่าอาจเกิดวิกฤติอสังหาฯลุกลามใหญ่โตเกินควบคุม โดย “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” แบกหนี้ไว้มหาศาลถึง 328,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 2% ของ

จีดีพีประเทศ ทำลายสถิติบริษัทอสังหาฯที่ก่อหนี้สินไว้มากที่สุด ในโลก เฉพาะกรุ๊ปนี้ มีโครงการอสังหาฯในมือมากกว่า 1,300 โปรเจกต์ ลงทุนไปทั่วประเทศมากกว่า 280 เมือง นอกจากอสังหาฯแล้วยังลงทุนในธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจดูแลสุขภาพ, ธุรกิจสวนสนุก และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล

ล่าสุด เศรษฐกิจจีนถูกบั่นทอนความเชื่อมั่นซ้ำอีกรอบ เมื่อยักษ์ใหญ่อสังหาฯเบอร์ 3 ของประเทศอย่าง “ซุนแอค ไชน่า โฮลดิงส์” ยื่นล้มละลายในสหรัฐฯเป็นรายที่สอง ขอคุ้มครองการล้มละลายภายใต้มาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ เพื่อให้ทรัพย์สินของซุนแอคในสหรัฐฯได้รับการปกป้องขณะที่บริษัทกำลังปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ต่างประเทศมูลค่ากว่า 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า “ซุนแอค” ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มาตั้งแต่กลางปี 2022 และเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า บริษัทได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ต่างประเทศกว่า 2,000 ราย ให้ปรับโครงสร้างหนี้และดอกเบี้ยมูลค่ากว่า 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกอบกู้วิกฤติของบริษัท เช่นเดียวกับที่ “เอเวอร์แกรนด์” เคยดิ้นรนทุกทางเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ต่างประเทศ หลังผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในช่วงปลายปี 2021

...

นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ผู้พัฒนาอสังหาฯในจีนเผชิญกับวิกฤติการขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักอันเนื่องมาจากยอดขายที่ตกต่ำทั่วทั้งอุตสาหกรรม บีบคั้นให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จนถึงสิ้นปี 2022 มีรายงานว่า “ซุนแอค” มีหนี้สินรวมกันถึง 1 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดขายทั้งปี 2022 ลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามออกมาตรการเพื่ออุ้มภาคธุรกิจอสังหาฯที่กำลังป่วยหนัก รวมถึงการลดความเข้มงวดสำหรับผู้ซื้อบ้าน กระนั้น ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยทั้งโลกหลังวิกฤติโควิด ทำให้ไม่สามารถช่วยพลิกฟื้นยอดขายอสังหาฯกลับคืนมาได้

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จนถึงวันที่ 1 ก.ย. 2023 มีบริษัทอสังหาฯเอกชนในจีนถึง 68% คิดเป็น 34 ราย จาก 50 ราย กำลังประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ต่างประเทศ ส่วนอีก 32% มีหนี้ที่จะต้องจ่ายภายในเดือน ก.ย.นี้ มูลค่าสูงถึง 1,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มจะผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น

นี่มันระเบิดเวลาชัดๆ!! ถึงเวลาตั้งการ์ดสูงเตรียมสู้วิกฤติ กันแล้ว เพราะฝนที่ตกทางโน้นหนาวถึงคนทางนี้แน่นอน.

มิสแซฟไฟร์

คลิกอ่านคอลัมน์ "คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์" เพิ่มเติม