ชายชาวออสเตรเลียที่ถูกบันทึกภาพการเล่นเซิร์ฟพร้อมกับงูหลาม ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา ถูกสั่งปรับจำนวนมากฐานนำสัตว์เลื้อยคลานดังกล่าวมายังพื้นที่สาธารณะ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ 9นิวส์ ของออสเตรเลีย รายงานว่า นายฮิกอร์ ฟิวซา นักเซิร์ฟและเจ้าของงูหลามคาร์เพต มักออกไปเล่นกระดานโต้คลื่นที่ชายหาด โดยมีงูหลามพันอยู่รอบคออยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นไวรัลทางออนไลน์ และสร้างความกังวลให้แก่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

โจนาธาน แมคโดนัลด์ เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสัตว์ป่า จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและวิทยาศาสตร์รัฐควีนสแลนด์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ชายคนนี้ได้รับความสนใจจากเราเมื่อภาพที่เขาพางูหลามไปเล่นเซิร์ฟปรากฏในสื่อท้องถิ่น" แม้ว่านายฟิวซาจะมีใบอนุญาตที่ถูกต้องในการเลี้ยงงูตัวดังกล่าว แต่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำงูออกจากสถานที่ที่ได้รับใบอนุญาต หากไม่มีใบอนุญาตพิเศษ และลงโทษปรับเขาเป็นเงิน 2,322 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 53,000 บาท

"เราไม่ต้องการให้ผู้ถือใบอนุญาต นำสัตว์ของตนออกไปยังที่สาธารณะ เว้นแต่จะทำเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุมัติโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการรักษาสวัสดิภาพของสัตว์ ความปลอดภัยต่อสาธารณะ และเพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง" แมคโดนัลด์ กล่าวว่า "การนำสัตว์เลี้ยงพื้นเมืองออกไปในที่สาธารณะ อาจทำให้สัตว์เกิดความเครียดโดยไม่จำเป็น และพวกมันอาจมีพฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้เมื่อนำออกจากกรง" และกล่าวว่าหน่วยงานมีความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของงู

เขากล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่างูเป็นสัตว์เลือดเย็น และถึงแม้พวกมันจะว่ายน้ำได้ แต่สัตว์เลื้อยคลานมักหลีกเลี่ยงน้ำ และงูหลามอาจเจอกับน้ำที่เย็นจัด และงูชนิดเดียวที่ควรอยู่ในมหาสมุทรก็คืองูทะเล"

...

ก่อนหน้านี้ ฟิวซาบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า งูหลามคาร์เพต ที่มีชื่อว่า "ศิวะ" ชอบเล่นน้ำ และมันเคยโต้คลื่นกับเขาแล้วอย่างน้อย 10 ครั้ง "ผมมักจะพาเธอไปชายหาดและมันก็ชอบว่ายน้ำ ดังนั้นวันหนึ่งฉันจึงตัดสินใจพามันออกไปเล่นเซิร์ฟ และมันก็ชอบมาก"

เขาบอกว่า "ปกติแล้วถ้ามันไม่ชอบอะไร มันก็จะเริ่มส่งเสียงขู่ฟ่อ แต่มันกลับไม่ส่งเสียงขู่ตอนอยู่ในน้ำ"

งูหลามคาร์เพตตัวนี้ ไม่ใช่สัตว์ชนิดแรกที่มีชื่อเสียงจากการโต้คลื่นที่ชายหาดอ่าวเรนโบว์ แต่เป็ดตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า "ดั๊ก" มักออกมาโต้คลื่นเป็นประจำ และมักจะเป็นตัวขโมยซีนจากนายสเตฟ กิลมอร์ แชมป์นักโต้คลื่นชาวออสเตรเลีย เจ้าของของมัน.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign