ทางการเกาหลีใต้อนุมัติแผนบริหารเมืองของกรุงโซล นำร่องให้รับแรงงานต่างชาติ 100 คนเข้ามาเป็นสาวใช้ แก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำ หวังผลักดันภรรยาที่ต้องทำหน้าที่แม่บ้านออกมาทำงานนอกบ้านมากขึ้น


แผนการเปิดรับสาวใช้ต่างชาติเข้าทำงาน มีขึ้นหลังจากที่เกาหลีใต้พบปัญหาอัตราการเกิดต่ำ ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เกาหลีใต้แทบจะไม่เปิดโอกาสให้มีผู้อพยพชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศ

โดยนายโอ เซ ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลเกาหลีใต้ระบุว่า แม่บ้านชาวต่างชาติ จะช่วยฟื้นฟูสังคมของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการมาช่วยแก้ปัญหาการพักงานของผู้หญิง เนื่องจากไม่มีคนช่วยดูแลบ้านและลูกๆ ซึ่งที่ผ่านมาหญิงชาวเกาหลีใต้ส่วนมากจะต้องเผชิญกับแรงกดดันที่จะต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ เพื่อมาดูแลบ้าน และหาเลี้ยงครอบครัวด้วย ทำให้หลายครอบครัวเลือกที่จะไม่มีลูก เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง ขณะที่กระทรวงแรงงานเกาหลีระบุว่า ตัวเลขของคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ที่สนใจจะทำอาชีพเป็นแม่บ้านก็ลดลงต่อเนื่อง

โดยขณะนี้ทางการเกาหลีใต้อยู่ระหว่างพูดคุยกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการส่งออกแรงงาน เพื่อหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนำร่องที่จะเริ่มต้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งภายใต้กฎระเบียบปัจจุบัน จะอนุญาตให้เพียงคู่สมรสของชาวเกาหลีใต้ หรือคนเชื้อชาติเกาหลีใต้เท่านั้นที่จะสามารถทำอาชีพแม่บ้านได้ โดยทางรัฐบาลเกาหลีใต้ประมาณการว่าค่าจ้างแม่บ้านฟูลไทม์ที่มาพักอาศัยกับนายจ้างในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ราว 3.5-4.5 ล้านวอน หรือราว 93,800-120,600 บาทต่อเดือน

...

นับว่าโครงการนำร่องใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาอัตราการเกิดที่ดิ่งลงอย่างมากของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนับว่าเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย โดยในปี 2022 พบว่าอัตราการเกิดในเกาหลีใต้อยู่ในอัตราที่ต่ำที่สุดของโลก โดยมีอัตราการเกิดของเด็กต่อผู้หญิง 1 คน อยู่ที่ 0.78 และกรุงโซลอยู่ที่เพียง 0.59 ต่อผู้หญิง 1 คนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มพลเมือง ที่มองว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะจริงๆ แล้วรัฐบาลควรแก้ปัญหาด้วยการลดชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานลง เพราะพ่อแม่ทุกคนอยากมีเวลาเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เวลากับลูกๆ ไม่ได้ต้องการให้คนนอกเข้ามาแทนที่เพื่อดูแลลูกๆ แทนพวกเขาแต่อย่างใด.

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ "เกาหลีใต้"