สหรัฐฯ ส่งคืนวัตถุโบราณกว่า 250 ชิ้นให้อิตาลี หลังตำรวจตรวจพบว่าทั้งหมดถูกขโมยมา

หน่วยศิลปะของกองกำลังตำรวจอิตาลีพบว่า สิ่งของเหล่านี้ถูกปล้นและขายให้กับพิพิธภัณฑ์และนักสะสมเอกชนของสหรัฐฯ ในช่วงยุค 1990 โดยสิ่งของอันล้ำค่าเหล่านี้ ยังรวมถึง หม้อ ภาพวาด และประติมากรรม ซึ่งงานบางชิ้นมีอายุมากถึง 3,000 ปี และพบว่างานกระเบื้องโมเสกหลายชิ้นมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

รายการที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนไปถึงยุควิลลาโนวาน (1,000 - 750 ปีก่อนคริสตกาล) ในขณะที่โบราณวัตถุอื่นๆ มาจากอารยธรรมอิทรุสกัน (800 - 200 ปีก่อนคริสตกาล) แมกนา กราเซีย (750 - 400 ปีก่อนคริสตกาล) และจักรวรรดิโรมัน (27 ปีก่อนคริสตกาล - 476 คริสต์ศักราช)

สิ่งของส่วนใหญ่ถูกขโมยไปในช่วงทศวรรษที่ 1990 จากนั้นขายผ่านนายหน้าหลายราย โดยมีโบราณวัตถุชุดหนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกเสนอขายให้กับ เมนิล คอลเลกชัน (Menil Collection) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส

กระทรวงวัฒนธรรมอิตาลีกล่าวว่า วัตถุโบราณเหล่านี้จัดแสดงอยู่ใน เมนิล คอลเลกชัน แต่โฆษกของพิพิธภัณฑ์ปฏิเสธเรื่องนี้ และกล่าวว่าสิ่งของเหล่านี้ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันดังกล่าว โฆษกกล่าวว่าพิพิธภัณฑ์ได้รับการเสนอโบราณวัตถุดังกล่าวเป็นของขวัญ แต่อ้างว่าผู้บริจาคคือกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลี

กระทรวงฯ ระบุว่า เจ้าของคอลเลกชันดังกล่าวส่งคืนโบราณวัตถุ "ด้วยตนเอง" หลังจากตำรวจพบว่าได้มาจากการขุดค้นแหล่งโบราณคดีอย่างผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุว่า วัตถุโบราณ 145 ชิ้นที่ส่งคืน มาจากกระบวนการยื่นล้มละลายของนายโรบิน ไซมส์ พ่อค้าวัตถุโบราณชาวอังกฤษ ซึ่งครอบครองโบราณวัตถุหลายพันชิ้น ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผู้ค้าโบราณวัตถุผิดกฎหมาย

...

อิตาลีพยายามติดตามวัตถุโบราณและสิ่งของต่างๆ ที่ถูกขโมยและขายให้กับนักสะสมและพิพิธภัณฑ์เอกชนมาเป็นเวลานาน

ในเดือนกันยายน 2565 นิวยอร์กส่งคืนงานศิลปะที่ถูกขโมยมูลค่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 665 ล้านบาท) ไปยังอิตาลี รวมถึงเศียรหินอ่อนของเทพีอะธีนาที่สร้างเมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีมูลค่าถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 105 ล้านบาท.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign