การพัฒนาของจีนจากประเทศยากจนสู่การเป็นมหาอำนาจเบอร์ 2 ของโลก ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จมาจากการหลอมรวมจิตใจคนทั้งชาติให้เป็นหนึ่ง ประชากรกว่า 1,400 ล้านคน มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ถึง 56 ชนเผ่า แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ชาวจีนทั้งประเทศเชื่อมั่นพร้อมที่จะปฏิบัติตาม

ว่ากันว่าคนจีนมักถ่ายทอดแง่คิดมุมมองต่างๆผ่านตัว หนังสือ ใครเคยไปเมืองจีนจะเห็นว่าตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าเป็นบริษัทห้างร้าน ถนนหนทาง มักมีข้อความเป็น คำขวัญ คำคม สุนทรพจน์ คติเตือนใจ ไว้คอยปลุกจิตสำนึกอยู่เสมอ

เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ช่วงที่ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ผมไปเที่ยวที่เมืองเซี้ยเหมิน มณฑลฟูเจี้ยน ที่จุดพักรถระหว่างเมืองมีป้ายขนาดใหญ่รณรงค์ค่านิยม 12 ประการ กระตุ้นเรื่อง ความเจริญรุ่งเรือง ประชาธิปไตย (ที่ให้คำนิยามแตกต่างจากประชาธิปไตยของโลกตะวันตก) ความสุภาพ ความสามัคคีกลมเกลียว เสรีภาพ ความเท่าเทียม ความยุติธรรม หลักนิติรัฐ ความรักชาติ ความทุ่มเท ความซื่อสัตย์ และมิตรภาพ เพื่อปูพื้นฐานสู่ความเป็นสังคมจีนทันสมัย

...

(ถ้าเป็นผู้นำประเทศไทยสั่งติดป้ายรณรงค์แบบนี้บ้าง คงโดนบูลลี่ฟาดเละเต็มโซเชียลแน่นอน เพราะไทยเรามีความคิดแตกแยกฝังรากลึกลงทุกที ทั้งจากนักการเมืองที่มุ่งเอาชนะคะคานกัน และอคติที่ถูกแต่งเติมยัดใส่สู่สังคม)

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผมได้มีโอกาสไปจีนอีกครั้ง ตามโครงการอบรมหลักสูตร “มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้” ครั้งที่ 5 จัดโดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ไปศึกษาดูงานในหลายองค์กร ที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน อาทิ แลกเปลี่ยนความเห็นกับตัวแทนศูนย์การสื่อสารระหว่างประเทศ เอเชียใต้-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งยูนนาน, เยี่ยมชมวิทยาลัยเทคนิคระบบราง kunming Railway Vocational Technical College, ดูงานด้านการฟื้นฟูชนบทที่ Xiaoyu Village, ชมการประมูลดอกไม้ ที่ตลาดส่งออก ดอกไม้นานาชาติโต่วหนาน ฯลฯ

ระหว่างทางไปสถานที่ต่างๆได้เห็นคำขวัญ คติเตือนใจ แฝงอยู่ตามจุดต่างๆมากมายเหมือนเดิม มีทั้งข้อคิดที่เคร่งขรึม ไปจนถึงประเด็นเล็กๆที่ละมุนละม่อม

คุณประวิทย์ ทั้งทวีสุข ผู้ก่อตั้งเพจไทยคำจีนคำ ซึ่งร่วมคณะไปด้วย ได้ทำคลิปมาฝากแฟนเพจ ในห้องน้ำชาย ตรงหน้าโถฉี่ มีป้ายข้อความว่า “ก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว สร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ได้” หมายถึงให้ช่วยก้าวเท้าชิดโถฉี่อีกนิด จะช่วยสร้างอารยธรรมในห้องน้ำได้ เป็นการรณรงค์สร้างความสะอาดในห้องสุขา เพื่อแก้ไขจุดด้อยห้องสุขาสกปรกในเมืองจีน

หรือตามโต๊ะกินข้าวจะมีข้อความ “กินอาหารอย่าให้เหลือทิ้ง สิ่งดีๆเริ่มต้นที่ตัวเรา” เพราะยังมีคนยากลำบากรออยู่อีกมาก และกว่าจะได้อาหารมาแต่ละอย่าง เกษตรกรต้องทำงานแลกมาด้วยหยดเหงื่อแรงกาย นอกจากนี้คนจีนรุ่นใหม่ยังพูดเสียงเบาลง และกล่าวขอบคุณพนักงานที่ตักอาหารให้ บ่งบอกถึงการมีอารยะมากขึ้น เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี

จีนหลอมรวมความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรมด้วยการออกคำขวัญคำคมมาปลุกจิตสำนึกให้เป็นหนึ่งเดียว ขณะที่คนในชาติก็เชื่อถือพร้อมใจปฏิบัติตาม นั่นเพราะทุกคนเห็นผลความสำเร็จเกิดขึ้นจริง ตัวผู้นำทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง ประชาชนปฏิบัติตาม ประเทศจึงเจริญพัฒนารุดหน้าในทุกด้าน ดึงคนจีนหลุดพ้นจากความยากจน

แต่ละประเทศ แต่ละระบบ ล้วนมีข้อดีข้อเสีย จีนก็เติบโตตามบริบทของจีน ส่วนบริบทแบบไทยจะรวมใจเป็นหนึ่ง หรือแตกแยกเกลียดชังกัน ก็อยู่ที่ทุกคนในชาติ อย่าเอาแต่โทษผู้นำผู้มีอำนาจอย่างเดียวเลยครับ ง่ายที่สุดและเห็นผลเร็วที่สุดคือ คิดดีทำดีให้เริ่มจากตัวเรา.

ลมกรด

...

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม