ในขณะที่การบุกตีโต้ของกองทัพยูเครนเพื่อทวงดินแดนจากรัสเซียยังไม่มีความคืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอัน แม้จะดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. และเริ่มถูกมองจากชาติตะวันตกว่าช้าอย่างน่าผิดหวังนั้น ด้านหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์ส สหรัฐฯ ได้รายงานเมื่อวันที่ 3 ส.ค. อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯว่า กองทัพยูเครนมีท่าทีละทิ้งกลยุทธ์ที่ได้รับฝึกฝนมาจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) โดยเลือกที่จะใช้อาวุธระยะไกลไม่ว่าปืนใหญ่หรือจรวดยิงต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย แทนการส่งทหารบุกทะลวงฝ่าดง กับระเบิดและโซนยิงสังหาร

ทั้งนี้ รายงานของสื่อสหรัฐฯระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หน่วยรบยูเครนที่ถูกเก็บรักษาไว้ใช้ในการบุกตีโต้ได้รับการฝึกฝนยุทธวิธีการบุกทะลวงแบบชาติตะวันตก หรือการใช้อาวุธทุกอย่างที่มีพร้อมๆกันภายใต้การสั่งการและการประสานงานระหว่างหน่วยรบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพียงแต่ระยะเวลาการฝึกฝนมีน้อยเกินไป ทำให้เกิดความผิดพลาดต่างๆ อาทิ การแปรขบวนผิดทางจนเข้าไปอยู่ในดงกับระเบิด หรือการกะเวลาบุกไม่พร้อมเพรียง ที่ทำให้แนวรับรัสเซียที่ถูกนวดอย่างหนักด้วยปืนใหญ่และจรวดมีเวลาพอที่จะตั้งตัวรับการบุก อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าการกลับไปใช้กลยุทธ์สู้ระยะไกลแบบตำราเก่าของยูเครนจะมีกระสุนปืนใหญ่หรือจรวดเพียงพอที่จะยิงแลกกับ ฝ่ายรัสเซียหรือไม่.