ช่วงนี้ผมกับภรรยาเดินทางระหว่างกุ้ยหลิน ฉางซา และซัวเถา ยังคงดูกิจการร้านอาหารอยู่ทุกวัน มีโอกาสก็คุยกับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าคนไทย นักธุรกิจไทยในเมืองจีนท่านหนึ่งซึ่งโปรจีนอย่างแรงได้คุยกับผม ท่านปรารภว่าน่าเป็นห่วงนโยบายการต่างประเทศของไทย หากมีการเปลี่ยนขั้วและรัฐบาลใหม่ไปร่วมมือกับสหรัฐฯและเครือข่ายในการปิดล้อมจีน

เครือข่ายของสหรัฐฯที่ประกาศชัดในขณะนี้ก็มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ (หลังจากเปลี่ยนผู้นำเป็นนายมาร์กอส จูเนียร์เมื่อ 30 มิถุนายน 2022) ส่วนอินเดีย นายกรัฐมนตรีโมดีก็เพิ่งไปพบประธานาธิบดีไบเดนเมื่อ 22 มิถุนายน 2023 หนึ่งในหัวข้อการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับอินเดียก็คือความร่วมมือกันด้านกลาโหม ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเวียดนามก็ไม่ค่อยดีนัก จากปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้

ช่องทางของจีนที่จะออกทะเลทางใต้ต้องผ่านพม่า ไทย ลาว และกัมพูชา บรรดา 4 ประเทศที่เอ่ยถึง ไทยโดดเด่นและมีสถานะทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่จีนถือว่าเป็นเพื่อนมิตรที่พอพึ่งพาอาศัยได้ ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา จีนจึงอนุโลมให้นักธุรกิจไทยและสินค้าไทยได้เข้าไปแพร่ขยายกระจายในแผ่นดินจีนได้ในระดับที่ดีพอสมควร

ลูกค้าท่านนี้มีความเชื่อว่า สหรัฐฯอยากให้ไทยมีสถานะแนบแน่นกับสหรัฐฯเหมือนในสมัยสงครามเวียดนาม จึงทุ่มทรัพยากรเต็มที่เพื่อให้ไทยกลายเป็น ‘มหามิตรปิดล้อมจีน’ จึงสนับสนุนนักการเมืองที่จะนำนโยบาย ‘มหามิตรปิดล้อมจีน’ มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ท่านถามว่า นโยบายการต่างประเทศของไทยในทัศนคติของผมเป็นอย่างไร ผมตอบว่า ไทยควรมีนโยบายเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ เพราะผลประโยชน์ของเรามีอยู่ทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีน หากเราเอียงไปทางกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างชัดเจน ประเทศจะเผชิญกับความลำบากยุ่งยาก นักธุรกิจชาวไทยท่านนี้เล่าเสริมว่า ถ้าประเทศไทยร่วมเป็น ‘มหามิตรปิดล้อมจีน’ จะไม่มีทุเรียนไทยแม้แต่ลูกเดียวที่จะได้เข้าไปขายในแผ่นดินจีน เรื่องนี้จะกระทบกับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียน เงินจะหายไปจากกระเป๋าของชาวสวนไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนล้านบาทต่อปี นี่ยังไม่รวมการกีดกันทางการค้าอย่างอื่นนะครับ

...

นโยบายกับประเทศเพื่อนบ้านสำคัญมาก เราต้องบาลานซ์ระหว่างโลกที่ต่อต้านรัฐบาลพม่าอย่างรุนแรงกับประเทศที่มีพรมแดนติดกับพม่าอย่างเรา แต่ประเทศที่ต่อต้านพม่าเหล่านั้นไม่ได้มีพรมแดนติดกับพม่า จึงไม่ได้รับผลกระทบเหมือนเรา เราจึงต้องนิ่งและช่วยกันคิดหาทางออกที่ไม่เสียหายทั้งในระดับโลกและไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้านอย่างพม่า

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของกัมพูชาจะมีในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2023 นายกรัฐมนตรีฮุน เซนเริ่มหาเรื่องไทยเพื่อใช้หาเสียงแบบที่เคยทำมาทุกครั้ง เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งตั้งแต่อดีตกาลนานนม แกก็ยกขึ้นมาตำหนิติไทยในวาระใกล้เลือกตั้ง ฮุน เซนรู้ว่า คนกัมพูชาจำนวนไม่น้อยมีปมกับไทย ใครโจมตีประเทศไทยและคนไทยได้อย่างสะใจก็จะเลือกคนนั้น คนกัมพูชาจำนวนหนึ่งยังฝังใจว่ารัฐบาลไทยในอดีตเคยให้สหรัฐฯมาสร้างสนามบินในหลายจังหวัดเพื่อให้ไปทิ้งระเบิดในลาวและกัมพูชา จนผู้คนล้มหาย ตายจากไปนับหมื่นนับแสนคน

ทันทีที่รู้ว่ารัฐสภาไทยไม่โหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็น นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ก็โพสต์ทวิตเตอร์ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2023 โดยพูดถึงชาวกัมพูชาที่คัดค้านแกว่า “...คนทรยศ เหล่านี้หวังมาตลอดว่า เมื่อพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย พวกเขา จะใช้ดินแดนไทยรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา ตอนนี้ ความหวังของพวกฝ่ายค้านที่โหดร้ายหายไปแล้ว ดั่งเกลือที่ละลายในน้ำ”

ผมอยากเห็นแผ่นดินไทยสงบ ไม่อยากให้ไทยมีเรื่องกับจีน พม่า ลาว หรือแม้แต่กัมพูชา ไม่อยากให้สหรัฐฯมาลากเราให้ไปเผชิญกับสงครามตามชายแดนเหมือนในอดีตอีก.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

อ่านข่าวเพิ่มเติม "เปิดฟ้าส่องโลก"