กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างขั้วมหาอำนาจ ที่ลุกลามไปถึงระดับสังคม หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาดูมาของรัสเซียผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยการ “จำกัด” การเปลี่ยนเพศ ของประชาชน
โดยมองว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องควบคุม เนื่องด้วยการลุกลามของ “อุดมการณ์ข้ามเพศ” ของชาติตะวันตกที่ส่งผลให้จำนวนการเข้ารับแปลงเพศมีสถิติสูงขึ้น 50 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้วมีชาวรัสเซียขอยื่นคำร้องเปลี่ยนเพศในทางกฎหมายและขอรับการผ่าตัดแปลงเพศมากกว่า 1,000 คน
พร้อมชูประเด็นกล่าวหาว่า เรากำลังเผชิญ กับการรุกคืบของ “อุตสาหกรรมแปลงเพศ” บรรดาแพทย์ นักจิตวิทยาไร้จรรยาบรรณ และเครือข่ายองค์กรข้ามเพศ-นักกิจกรรมกำลังผลักดัน ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เกิดความสนใจ อีกทั้งการเข้ารับการผ่าตัดในศูนย์การแพทย์เอกชนก็ไม่ได้ ยากลำบาก ไม่ได้มีการตรวจสอบความเหมาะสมอย่างละเอียด ขณะที่ค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ราว 330 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 11,550 บาท
สำหรับกฎหมายฉบับใหม่นี้ อนุญาตให้เฉพาะศูนย์การแพทย์ที่มีใบอนุญาตเป็นผู้ออกใบรับรองว่าบุคคลคนนี้สามารถเปลี่ยนเพศในทางกฎหมาย แต่ผลที่ตามมาคือสถานะ “การสมรส” จะถูกยกเลิก เนื่องด้วยรัสเซียรับรองการสมรสเฉพาะชาย-หญิงเท่านั้น และผู้ที่เปลี่ยนเพศจะไม่มีสิทธิ์ในการรับอุปการะบุตรบุญธรรมและไม่สามารถเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ตามกฎหมาย
ส่วนบุคคลที่ได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนเพศไปแล้วจะต้องได้รับการรับรองจากศูนย์การแพทย์ที่มีใบอนุญาตว่ามีความเหมาะสมที่จะต้องเปลี่ยนเพศ จึงจะสามารถยื่นขอเปลี่ยนเพศในทะเบียนราษฎรได้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิคนข้ามเพศได้แสดงจุดยืนประณามกฎหมายฉบับใหม่ว่าเป็นการบั่นทอนสิทธิมนุษยชนและเป็นผลพวงจากความเกลียดชังคนข้ามเพศ พร้อมก่อให้เกิดคำถามตามมามากมาย เช่น แพทย์จะสามารถทำการผ่าตัดเต้านมของสตรีเพศได้หรือไม่ ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีพันธุกรรมที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
...
มาตรการใหม่ของรัสเซียนี้มีขึ้นท่ามกลาง กระแสติดลมบนของคนข้ามเพศในชาติตะวันตก ซึ่งกำลังอยู่ในจุดที่ “แตะไม่ได้” ใครเห็นต่างก็จะกลายเป็นพวกเหยียดเพศทันที โดยเปิดกว้างถึงขนาดให้อดีตบุรุษเพศสามารถแข่งขันในกีฬาหญิงทั้งที่มวลกระดูก-กล้ามเนื้อต่างกัน หรือสามารถคว้ามงกุฎ “นางงาม” ไปอย่างงงๆ แบบกรณีนางงามเนเธอร์แลนด์ 2023 เข้าร่วมลงแข่งการประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 ที่เอลซัลวาดอร์ ในช่วงปลายปีนี้.
ตุ๊ ปากเกร็ด
อ่านข่าวเพิ่มเติม "หน้าต่างโลก"