มีผู้สังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือแบบจอพับได้วางอยู่บนโต๊ะ ในภาพถ่ายของนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะที่กำลังกำกับดูแลการทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่เมื่อวันพุธ

มีผู้สังเกตเห็นสมาร์ทโฟนแบบพับได้ วางอยู่บนโต๊ะด้านข้าง ในขณะที่นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำลังร่วมสังเกตการณ์การยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ล่าสุดและทรงพลังที่สุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (12 ก.ค.)

ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของทางการเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดี เผยให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนโทรศัพท์มือถือพับได้สีเงินในปลอกหนังสีดำ ซึ่งดูคล้ายกับสมาร์ทโฟน "ซัมซุง กาแล็กซี ซี ฟลิป" (Galaxy Z Flip) ของเกาหลีใต้ หรือ "หัวเว่ย พ็อกเก็ต เอส" (Huawei Pocket S) ของจีน

ภาพถ่ายจากการเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-18 ซึ่งใช้เชื้อเพลิงแข็ง เมื่อวันพุธ ทำให้เกิดการคาดเดาทันทีว่าโทรศัพท์มาจากไหน หนังสือพิมพ์จูงอัง อิลโบของเกาหลีใต้ระบุว่า หากวัตถุบนโต๊ะเป็นโทรศัพท์แบบจอพับ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า มันถูกลักลอบนำเข้าเกาหลีเหนืออย่างลับๆ ผ่านทางจีน ขณะที่เกาหลีเหนือถูกแบนจากการนำเข้าหรือส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้การคว่ำบาตรของสหประชาชาติ

ที่ผ่านมา ความชื่นชอบของนายคิมที่มีต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มักเป็นเป้าหมายของความอยากรู้อยากเห็นของคนทั่วไป เขามักถูกถ่ายภาพ ในขณะที่ใช้อุปกรณ์บางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล รวมถึงไอแพด และแมคบุ๊ก

ตามรายงาน "เวิลด์ แฟกต์บุ๊ก" (World Factbook) ของสำนักข่าวกรองกลางแห่งสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ มีเพียงประมาณร้อยละ 19 ของประชากรเกาหลีเหนือเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงโทรศัพท์มือถือได้ 

สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ รายงานว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งเกาหลีเหนือเคยยิงเพียงครั้งเดียวก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน บินได้ไกล 1,001 กิโลเมตรที่ระดับความสูง สูงสุด 6,648 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ทะเลตะวันออกหรือที่เรียกว่าทะเลญี่ปุ่น เคซีเอ็นเอระบุว่า การยิงครั้งนี้เป็น "การระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ ที่สั่นสะเทือนโลกทั้งใบ" ภาพจากสื่อของรัฐแสดงให้เห็นขีปนาวุธที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

...

คิมให้คำมั่นว่าจะดำเนินการโจมตีทางทหารอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเปลี่ยนนโยบายต่อเกาหลีเหนือ โดยอ้างถึงสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี นายคิมยังเรียกร้องให้มีความพยายามอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศ

การยืนยันการปล่อยจรวด ซึ่งกองทัพเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันพุธ เกิดขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีที่ถึงจุดต่ำที่สุดครั้งหนึ่ง ที่ส่งผลให้การทูตหยุดชะงัก และนายคิมเรียกร้องให้เร่งพัฒนาอาวุธ รวมถึงนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้ส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยประกาศว่าเกาหลีเหนือจะเผชิญกับการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และ "จุดจบ" ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน หากยังมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์กับพันธมิตร.

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign