• แซก-แอฟตรา สหภาพนักแสดงสหรัฐฯ เริ่มการประท้วงหยุดงานแล้ว หลังจากพวกเขาเจรจาข้อตกลงสัญญาใหม่กับผู้แทนสตูดิโอผู้ผลิตและสตรีมมิงไม่สำเร็จ

  • สหภาพนักแสดงประท้วงหยุดงานตามรอยสหภาพนักเขียนบทเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี ที่ทั้ง 2 กลุ่มหยุดงานพร้อมกันเพื่อชัตดาวน์ฮอลลีวูด

  • แซก-แอฟตรา ระบุว่า AMPTP ผู้แทนฝ่ายผลิต ไม่เสนอข้อตกลงที่ยุติธรรมเพียงพอ ในขณะที่ AMPTP ยืนยันว่า พวกเขาเสนอเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการอื่นๆ ให้มากมายแล้ว

สหภาพนักแสดงผู้เป็นตัวแทนนักแสดงฮอลลีวูดมากกว่า 160,000 คนเริ่มการประท้วงหยุดงานแล้วในวันศุกร์ หลังจาก แซก-แอฟตรา (Sag-Aftra) กับ AMPTP ผู้แทนฝ่ายผลิตและบริษัทสตรีมมิง เจรจากันมานานนับเดือน จนกระทั่งผ่านพ้นเส้นตายในวันพุธที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ไม่อาจทำข้อตกลงกันได้

คณะกรรมการของ แซฟ-แอฟตรา ลงมติเป็นเอกฉันท์ในวันต่อมา เรียกร้องให้สมาชิกร่วมประท้วงหยุดงาน ตามรอยสหภาพนักเขียนบทละครและภาพยนตร์ ที่สมาชิกกว่า 11,000 คน เริ่มประท้วงไปก่อนหน้านี้เมื่อ 2 พ.ค. กลายเป็นการชัตดาวน์ฮอลลีวูดของ 2 สหภาพครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1960 หรือกว่า 60 ปีก่อน

ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันไม่ลงตัวในหลายเรื่อง โดยฝ่ายตัวแทนนักแสดงเรียกร้องค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมบันเทิงที่เปลี่ยนไป รวมถึงการมาของธุรกิจสตรีมมิง ขณะที่ผู้แทนฝ่ายสตูดิโอโทษฝ่ายสหภาพว่าเดินออกจากการเจรจา และว่าพวกเขาเสนอเพิ่มผลตอบแทนครั้งประวัติศาสตร์รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ ให้แล้ว

การประท้วงหยุดงานจะทำให้นักแสดงของฮอลลีวูดไม่สามารถเข้าร่วมงานอีเวนต์เพื่อโปรโมตภาพยนตร์เข้าใหม่ หรือที่กำลังจะเข้าฉายได้ ขณะที่การถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์หยุดชะงักเพราะการประท้วงของนักเขียนบทไปก่อนหน้านี้ ส่วนงานที่บทเสร็จแล้วก็จะไม่สามารถถ่ายทำต่อเพราะไม่มีนักแสดง จนกว่าทุกฝ่ายจะเจรจากันได้

...

ทำไมนักแสดงหยุดงานประท้วง

สหภาพนักแสดง หรือ แซก-แอฟตรา ประท้วงหยุดงานเนื่องจาก 4 ปัญหาหลัก ได้แก่ ความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ, ค่าตอบแทนจากการนำผลงานไปใช้ซ้ำ (residual), การกำกับดูแลการใช้ปัญญาประดิษฐ์ และลดภาระของนักแสดงที่ต้องอัดเทปส่งไปออดิชันเอง ตามกระแสนิยมที่เปลี่ยนไป

เรื่องความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ สื่อถึงค่าตอบแทนที่นักแสดงจะได้รับโดยขึ้นอยู่กับความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งเป็นเหตุผลที่สัญญาระหว่าง แซก-แอฟตรา กับ AMPTP มีอายุเพียงไม่กี่ปี เพื่อที่จะได้เจรจากันใหม่หากอุตสาหกรรมมีความเปลี่ยนแปลง

โดย แซก-แอฟตรา ระบุว่า สัญญาปัจจุบันนั้นล้าสมัย เพื่อเทียบกับวิวัฒนาการของธุรกิจสื่อ ทั้งซีรีส์ที่มีจำนวนตอนในแต่ละซีซั่นน้อยลง และการเว้นช่วงระหว่างซีซั่นที่นานขึ้น ทำให้เป็นเรื่องยากที่สมาชิกของพวกเขาจะได้รับหรือรักษาการดำเนินชีวิตระดับชนชั้นกลางด้วยการทำงานเป็นนักแสดง จึงต้องมีการรับรองว่า จะเพิ่มค่าตอบแทน, เพิ่มงบประมาณด้านสุขภาพ, สิทธิประโยชน์หลังเกษียณ และแผนเงินบำนาญ

อนึ่ง แซก-แอฟตราประเมินว่า ในบางช่วงบางปี สมาชิกกว่าครึ่งจากทั้งหมด 171,000 คนของพวกเขา ไม่ได้รับเงินจากการแสดงเลยแม้แต่บาทเดียว และมีเพียง 5-15% เท่านั้นที่มีรายได้มากพอทำประกันสุขภาพซึ่งมีเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ที่ 26,470 ดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2563 แซก-แอฟตรา ต้องตัดสิทธิประโยชน์เรื่องประกันสุขภาพของนักแสดงกว่า 12,000 คน รวมถึงอดีตประธานอย่าง เอ็ด อัสเนอร์ ด้วย

ส่วนเรื่องค่าตอบแทนจากการนำผลงานไปใช้ซ้ำ ก็กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเหล่านักแสดงรวมทั้งนักเขียนบทในยุคนี้ โดยตามปกติค่าตอนในส่วนนี้จะคิดจากผลกำไรที่ผลงานของพวกเขาสร้างหลังออกฉาย โดยเมื่อก่อนจะเป็นรายได้จากโฆษณาและยอดขายดีวีดี แต่ตอนนี้ธุรกิจสตรีมมิงกำลังบูม และแพลตฟอร์มสตรีมมากมายไม่จ่ายค่าตอบแทนนี้ในแบบเดียวกัน นอกจากนั้นยังปิดบังข้อมูลรายได้ ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคำนวณว่านักแสดงควรได้ค่าตอบแทนเท่าใด

ในด้าน AI แซก-แอฟตรา ระบุว่า ในแถลงการณ์สาธารณะและนโยบายการทำงานของบริษัทเหล่านี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะพิจารณาสิทธิพื้นฐานไปจนถึงเสียงของพวกเราอย่างจริงจังเลย ปัญญาประดิษฐ์กำลังถูกใช้เพื่อเลียนแบบการแสดงของนักแสดง และแซก-แอฟตรา ตั้งใจที่จะสร้างข้อกำหนดเพื่อให้เทคโนโลยีนี้ถูกใช้อย่างเป็นธรรม โดยต้องการให้มีการรับรองว่า AI จะไม่ถูกใช้เพื่อสร้างใบหน้าและเสียงมาแทนที่นักแสดง

และสุดท้ายเรื่องการอัดเทปออดิชันด้วยตัวเอง กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมบันเทิงไปแล้วนับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นการเพิ่มภาระให้นักแสดงที่ต้องลงทุนทุกอย่างด้วยตัวเอง สวนทางกับสตูดิโอที่ค่าใช้จ่ายสำหรับการออดิชันลดลงอย่างมาก บางรายลดจากหลักหมื่นดอลลาร์ต่อเดือนเหลือเพียงหลักพันหรือร้อย และประหยัดเงินได้มากถึง 250 ล้านดอลลาร์ต่อปี

“การแข่งขันที่มากเกินไป แต่เวลากลับน้อยเหลือเกิน และความต้องการอันไม่สมเหตุสมผล ทำให้การอัดเทปออดิชันด้วยตัวเองกลายเป็นภาระหนักประจำวันที่ไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ ในชีวิตของเหล่านักแสดง การมีกฎและข้อจำกัดที่สมเหตุสมผล และการเข้าถึงการคัดตัวในรูปแบบอื่นๆ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการรับประกันโอกาสการเข้าถึงงานอย่างเป็นธรรม และปกป้องนักแสดงจากการถูกแสวงหาผลประโยชน์”

ฟราน เดรสเชอร์ ประธานของ แซก-แอฟตรา ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายดันแคน แครบทรี-ไอร์แลนด์ ผู้อำนวยการบริหารและหัวหน้าทีมเจรจา
ฟราน เดรสเชอร์ ประธานของ แซก-แอฟตรา ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายดันแคน แครบทรี-ไอร์แลนด์ ผู้อำนวยการบริหารและหัวหน้าทีมเจรจา

เจรจาไม่ลงตัว

แซก-แอฟตรา กับ AMPTP เจรจากันมานานนับเดือนแล้ว โดยเบื้องต้นสัญญาเก่าจะหมดลงในวันที่ 30 มิ.ย. แต่ทั้งคู่ตกลงขยายสัญญาชั่วคราวเป็นเวลา 12 วัน ให้มีเวลาหาทางออกเพิ่มเติม แต่จนแล้วจนรอดก็ตกลงกันไม่ได้ และเส้นตาย ณ เที่ยงคืนวันที่ 12 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่นก็ผ่านพ้นไป

นางฟราน เดรสเชอร์ ประธานของ แซก-แอฟตรา ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายดันแคน แครบทรี-ไอร์แลนด์ ผู้อำนวยการบริหารและหัวหน้าทีมเจรจา ในวันพฤหัสบดีว่า หลังจากเจรจามานานกว่า 4 สัปดาห์ AMPTP ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทใหญ่อย่าง ดิสนีย์, เน็ตฟลิกซ์ และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก็ยังคงไม่ยินยอมเสนอข้อตกลงที่เป็นธรรมในปัญหาหลักที่สำคัญต่อสมาชิกของเรา

ด้าน AMPTP ระบุว่า การประท้วงไม่ใช่ผลลัพธ์ที่พวกเขาคาดหวังไว้ และตอบโต้ว่า พวกเขาเสนอข้อตกลงที่เพิ่มค่าจ้างและค่าตอบแทนจากการนำผลงานไปใช้ซ้ำในระดับประวัติศาสตร์แล้ว รวมถึงเพิ่มเพดานเงินบำนาญและเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพขึ้นอย่างมาก, เพิ่มมาตรการปกป้องการออดิชัน, ลดเวลาถ่ายทำซีรีส์ และวางแนวทางการใช้ AI ที่ปกป้องความคล้ายเหมือนทางดิจิทัลของนักแสดง สำหรับสมาชิกของแซก-แอฟตราด้วย

“แต่น่าเสียใจที่ฝ่ายสหภาพเลือกทางที่จะนำไปสู่ความยากลำบากทางการเงินสำหรับคนนับไม่ถ้วนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมนี้อยู่”

...

นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อ Oppenheimer รวมงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่กรุงลอนดอน
นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อ Oppenheimer รวมงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่กรุงลอนดอน

ชัตดาวน์ฮอลลีวูด

ก่อนหน้านี้ การหยุดงานของบรรดานักเขียนบทส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการสร้างภาพยนตร์และโทรทัศน์ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างโชว์ในงานประกาศรางวัล และงานอีเวนต์สาธารณะไปแล้ว แต่การหยุดงานของนักแสดงจะส่งผลกระทบมากยิ่งกว่า ภาพยนตร์หรือโชว์ใดๆ ในโลกที่มีนักแสดงของฮอลลีวูด อาจต้องหยุดลง หรือเลื่อนกำหนดการไปก่อน

การประท้วงของนักเขียนทำให้การเขียนบทละครทีวีส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ หยุดชะงักไปแล้ว ซีรีส์อย่าง The Last of Us, Blade Runner 2099 กับ The Mandalorian ต้องถูกเลื่อนกำหนดออกอากาศ ส่วนโปรเจกต์ในอนาคตอย่างภาคต่อของ Spider-Man: No Way Home, และ Blade ภาคทำใหม่ของดิสนีย์ก็ทำต่อไม่ได้ เนื่องจากบทยังไม่เสร็จ ขณะที่ภาพยนตร์ Thunderbolts และ Captain America: Brave New World ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างผลิต ก็ต้องเลื่อนกำหนดฉาย

แต่การหยุดงานของนักแสดงสหรัฐฯ หมายความว่า ต่อให้บทเขียนเสร็จแล้วก็ไม่สามารถถ่ายทำต่อได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะในสหรัฐฯ, ยุโรป หรือที่ใดก็ตาม ซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบรวมถึง House of the Dragon, Andor และ Industry ส่วนซีซั่น 2 ของซีรีส์ Bad Sisters ก็อาจเริ่มถ่ายทำไม่ได้

สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์ที่มีตารางการถ่ายทำยาวนานจะเสียหายในระยะยาวมากกว่า หากไม่สามารถถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จทันกำหนด โดยหนังชื่อดังที่สุดที่จะได้รับผลกระทบรวมถึง Gladiator 2 ซึ่งมีกำหนดถ่ายทำที่ มอลตา, โมร็อกโก กับสหราชอาณาจักรระหว่างเดือนมิถุนายนจนถึงตุลาคมนี้ และ Mission: Impossible–Dead Reckoning Part 2 ของพระเอกดัง ทอม ครูซ ที่จะถ่ายทำเสร็จในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ หลังภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง

สถานการณ์จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกสำหรับภาพยนตร์อิสระหรือต้นทุนต่ำ ซึ่งอาจยื่นคำร้องขอผ่อนปรนจาก แซก-แอฟตรา ให้นักแสดงมาร่วมถ่ายทำต่อไปได้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะมาร่วมงานได้บ้าง

นอกเหนือจากเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์ งานอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ก็อาจจะต้องเลื่อนหรือยกเลิก เพราะไม่มีนักแสดงและนักเขียนบทไปร่วม ผลกระทบเกิดขึ้นแล้วที่งานเปิดตัวภาพยนตร์ Oppenheimer ของคริสโตเฟอร์ โนแลนด์ ที่กรุงลอนดอน ซึ่งเลื่อนงานให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ให้นักแสดงเดินพรมแดง แต่นักแสดงจำนวนมากก็ออกจากงานหลังสหภาพประกาศการประท้วง

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติต่างๆ รวมถึงที่ เวนิส กับโตรอนโต ที่จะจัดขึ้นต่อเนื่องกันในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงตอนเดือนกันยายน หากการประท้วงยังไม่ยุติลง ภายในงานก็คงทำได้เพียงฉายภาพยนตร์ที่พร้อมฉาย แต่ไม่น่ามีนักแสดงปรากฏตัวและทำกิจกรรมเดินบนพรมแดง





ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี

ที่มา : moviewebnbcnewsthe guardianvariety

...