ก็เป็นข่าวใหญ่ระดับโลก เมื่อ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ส่ง นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ ประธานาธิบดีไบเดน ขึ้นครองอำนาจเมื่อต้นปี 2564 และเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้มีโอกาสเข้าพบประธานาธิบดี นับตั้งแต่ปี 2561 การตัดสินใจส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการของผู้นำสหรัฐฯในครั้งนี้ ก็เพื่อลดความตึงเครียดจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายก่อขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ความสัมพันธ์จีนสหรัฐฯจึงมีความสำคัญต่อภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจของโลกที่ทุกประเทศจะได้รับผลกระทบโดยตรง

วันนี้ผมจะนำเนื้อหาที่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดกับ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่สำนักงาน CGTN จีนเผยแพร่มาเล่าสู่กันฟัง

ประธานาธิบดีสี ได้กล่าวกับ นายบลิงเคน อย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ว่าทั้งสองประเทศจะแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ ล้วนส่งผลต่ออนาคตและชะตากรรมของมนุษยชาติทั้งสิ้น โลกของเรากว้างใหญ่พอที่จะรองรับการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของจีนและสหรัฐฯ ชาวจีนก็เหมือนชาวอเมริกันที่มีศักดิ์ศรี มีความมั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้ และประชาชนของทั้งสองประเทศมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศควรได้รับการเชิดชู ไม่ใช่ภัยคุกคาม โลกต้องการความสัมพันธ์จีน–อเมริกาที่มีเสถียรภาพ

ประธานาธิบดีสี กล่าวย้ำว่า “ทั่วโลกไม่ต้องการเห็นความขัดแย้ง หรือการเผชิญหน้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และไม่ต้องการเลือกข้างใดข้างหนึ่ง” การจัดการกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯอย่างเหมาะสม สามารถนำไปสู่สันติภาพและความก้าวหน้าของโลก ตลอดจนช่วยทำให้โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและปั่นป่วนมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง และมีความสร้างสรรค์มากขึ้น

...

ประธานาธิบดีสี ได้กล่าวถึง การพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 กับนายไบเดน ที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะนำความสัมพันธ์จีน–สหรัฐฯกลับสู่เส้นทางการพัฒนาอย่างมั่นคงอีกครั้ง โดยย้ำกับ นายบลิงเคน ว่า ทั้งสองประเทศยังคงต้องยึดมั่นในความเข้าใจร่วมกันระหว่างเขา (ผู้นำจีน) กับนายไบเดนที่บาหลี และ เปลี่ยนถ้อยแถลงเชิงบวกไปสู่การปฏิบัติจริง เพื่อสร้างเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯให้ดีขึ้น

ประธานาธิบดีสี ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การแข่งขันของประเทศยักษ์ใหญ่ ไม่เข้ากับบริบทของโลกในยุคปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ปัญหาของอเมริกาเองได้ และไม่สามารถรับมือกับความท้าทายที่ทั้งโลกกำลังเผชิญอยู่ได้ จีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จีนไม่พยายามที่จะท้าทายหรือแทนที่สหรัฐฯ ในทำนองเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็จำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน จีนหวังเสมอว่าจะเห็นความสัมพันธ์จีน–สหรัฐอเมริกา มีความแข็งแกร่งและมั่นคง และหาทางที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

นายบลิงเคน ได้กล่าวตอบ ประธานาธิบดีสี ว่า สหรัฐฯมุ่งมั่นที่จะกลับไปสู่วาระที่ประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องต้องกันที่บาหลี สหรัฐฯยึดมั่นตามคำสัญญาของไบเดน ไม่สร้างสงครามเย็นครั้งใหม่ ไม่พยายามเปลี่ยนแปลงระบบของจีน ไม่ให้พันธมิตรของสหรัฐฯพุ่งเป้าไปที่จีน ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน และไม่สร้างความขัดแย้งกับจีน สหรัฐฯตั้งตารอที่จะมีส่วนรวมกับจีน รวมถึงเปิดกว้างในการสื่อสารและจัดการความแตกต่างด้วยความรับผิดชอบ

ท่าทีของสหรัฐฯครั้งนี้ดูดีมาก เป็นมิตรมากขึ้น ถ้าสองชาติมหาอำนาจโลกคืนดีกันได้เหมือนเดิม โลกเบี้ยวใบนี้จะสวยสดงดงามขึ้นอีกมาก ผมขอเอาใจช่วยอีกแรงครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”