ผู้เชี่ยวชาญชี้การค้นหาเรือดำน้ำไททันที่สูญหายไป ขณะพาคนไปชมซากเรือไททานิกใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มีความยากลำบาก เปรียบได้กับการตามหาของที่ลอยคว้างอยู่ในอวกาศ

ทีมค้นหาจากหลายประเทศยังคงระดมกำลังแข่งกับเวลา เพื่อค้นหายานดำน้ำไททันที่มีขนาด 6.5 เมตร หรือพอๆ กับวาฬเพชฌฆาตพร้อมคนในเรืออีก 5 คน หลังจากดำลงไปใต้ทะเลเพื่อสำรวจซากเรือไททานิกและขาดการติดต่อไป โดยล่าสุดคาดการณ์ว่าในเรือจะมีออกซิเจนเหลือเพียงพอแค่ไม่ถึง 40 ชั่วโมงแล้ว ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ในจำนวนลูกเรือ 3 คนที่ไปกับยานใต้น้ำลำนี้เป็นผู้โดยสารที่ควักกระเป๋าจ่ายเงินกว่า 8.7 ล้านบาท เพื่อร่วมเดินทางครั้งนี้ ได้แก่นายฮามิช ฮาร์ดดิ้ง มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ, นายชาซาดา แดวูด มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวปากีสถาน รวมทั้ง นายสุไลมาน ลูกชายของนายแดวูด ส่วนอีก 2 คน คือ นายสต็อกตัน รัช ซีอีโอของบริษัทโอเชียนเกต เจ้าของเรือที่รับหน้าที่เป็นคนบังคับเรือ รวมทั้ง นายพอล อองรี นาเกโอเลต อดีตนักดำน้ำกองทัพเรือฝรั่งเศส วัย 77 ปี ซึ่งเคยไปสำรวจเรือไททานิกมาก่อน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ลงไปด้วย

...

นายทิม มัลติน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือไททานิกให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซี นิวส์ นาว ว่า ก้นมหาสมุทรมืดมากและเย็นจัด ก้นทะเลเต็มไปด้วยโคลน ที่เป็นลูกคลื่น คุณแทบจะมองไม่เห็นมือที่อยู่ตรงหน้าคุณด้วยซ้ำ ถ้าเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับเป็นนักบินอวกาศที่ต้องออกไปท่องอวกาศ ดังนั้นการค้นหาอย่างละเอียดในน่านน้ำเป้าหมาย 20,000 ตารางกิโลเมตร ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่ระดับความลึกกว่า 3.2 กิโลเมตร ไม่ใช่เรื่องง่าย

ด้านนายเจมี เฟรดเดอริก หัวหน้าหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ที่ประสานงานปฏิบัติการค้นหาเผยว่า เป็นภารกิจที่ยากมากและเกินกำลังที่หน่วยยามฝั่งเคยปฏิบัติการ เนื่องจากหน่วยยามฝั่งซึ่งปกติทำหน้าที่ประสานงานในการค้นหาและกู้ภัย ไม่มีความเชี่ยวชาญและไม่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการค้นหาที่มีความซับซ้อนในลักษณะนี้ ต้องอาศัยหลายหน่วยงานที่มีความชำนาญด้านนี้และอุปกรณ์พิเศษ โดยการค้นหาล่าสุดยังคงให้ความสำคัญทั้งการค้นหาบนผิวน้ำ รวมทั้งการค้นหาใต้น้ำ โดยใช้เครื่องบินลำเลียงซี-130 ค้นหาบนผิวน้ำและเรดาร์ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องบินพี 3 ค้นหาใต้ผิวน้ำด้วยทุ่นโซนาร์ที่หย่อนลงไป แต่จนถึงขณะนี้ยังคงไม่พบเบาะแส

เจมี พริงเกิล ศาสตราจารย์ด้านนิติธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคีลของอังกฤษ ชี้ว่า หากยานไททันจมอยู่บนก้นมหาสมุทรก็จะสังเกตเห็นได้ยากมาก เนื่องจากก้นมหาสมุทรไม่ใช่พื้นที่ราบ แต่เต็มไปด้วยเนินเขาและหุบเหวลึก นอกจากนี้ก้นมหาสมุทรที่ระดับความลึก 4 กิโลเมตร ยังมีแรงดันมหาศาลคิดเป็น 400 เท่าของระดับผิวน้ำ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้อุปกรณ์ค้นหา และมีเรือไม่กี่ลำที่จะอยู่ในความลึกระดับนี้ได้.