เรื่องของ “ดีเอ็นเอ” (DNA) หรือสารพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตถือเป็นเรื่องราวที่สำคัญและควรคำนึงถึง โดยเฉพาะการนำไปใช้งานที่อาจก่อให้ เกิดข้อกังวลด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ มีรายงานการค้นพบที่ชวนตกใจนั่นก็คือนักวิทยาศาสตร์พบว่าตั้งแต่หาดทรายไปจนถึงห้องพักในโรงพยาบาล มนุษย์ได้ทิ้งดีเอ็นเอไว้ทุกที่ที่พวกเขาไป แม้ว่าจะรู้กันว่าการทิ้งร่องรอยดีเอ็นเอตามที่ต่างๆไม่ใช่เรื่องแปลก

สิ่งที่น่าตกใจนั่นคือ นักวิจัยได้วิเคราะห์ตัวอย่างที่รวบรวมจากสิ่งแวดล้อมในสหรัฐฯ และไอร์แลนด์ รวมถึงรอยเท้ามนุษย์ที่ชายหาดและในอากาศห้องพักของโรงพยาบาล พวกเขาพบว่ามีดีเอ็นเอของมนุษย์ซึ่งมีคุณภาพสูงในสภาพแวดล้อมเหล่านั้น หรือเรียกว่าดีเอ็นเอจากสิ่งแวดล้อม (environmental DNA หรือ eDNA) ซึ่งเพียงพอที่จะระบุบรรพบุรุษทางพันธุกรรมของประชากรในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนระบุการกลายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคได้

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าแม้ว่าการสุ่มตัวอย่าง eDNA จะมีประโยชน์ เช่น ช่วยในการพิสูจน์หลักฐานทางคดีอาญา การติดตามการกลายพันธุ์ของมะเร็งจากน้ำเสีย การค้นหาแหล่งโบราณคดีที่ยังไม่ถูกค้นพบด้วยการตรวจหาดีเอ็นเอของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ แต่การพบ eDNA ก็มีข้อเสียเช่นกัน เช่น มันสามารถใช้เพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลทางพันธุกรรมโดยไม่ได้รับความยินยอม และน่ากังวลอย่างยิ่งหากนำไปใช้กับประชากรที่เปราะบางหรือชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ ดังนั้น ควรมีการตรวจสอบและมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด.