“เวิลด์ เอ็กซ์โป” (World Expo) หรือ ชื่อทางการว่า International Registered Exhibitions ก็คือกิจกรรมระดับโลกที่เป็นการรวมตัวของนานาประเทศ เพื่อจัดการกับความท้าทายที่เป็นสากลในปัจจุบัน ซึ่งจะอนุญาตให้ชาติต่างๆ สร้างพาวิลเลียนหรือพื้นที่ต้อนรับของตนเองเพื่อดึงดูดผู้มางานเวิลด์ เอ็กซ์โปเข้าชม
แต่การจะได้เป็น “เจ้าภาพ” เวิลด์ เอ็กซ์โป ก็ต้องผ่านกติกาคัดเลือก ประเทศที่หมายตาตำแหน่งนี้ต้องยื่นใบสมัครแก่คณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) ทำเอกสาร แสดงถึงวิสัยทัศน์สำหรับงานเวิลด์ เอ็กซ์โป แสดงการวางแผนงาน โชว์สาระสำคัญอันเป็นหัวใจหลัก นำเสนอสิ่งที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ จัดทำโครงร่างเกี่ยวกับจำนวนการเข้าชม การจัดหาเงินทุนและค่าใช้จ่าย เรียกว่าใส่กันไปเต็มศักยภาพ
งานมหกรรมนี้จัดกันทุก 5 ปี ซึ่งในปี 2568 ทั่วโลกต่างรอคอยว่า “เวิลด์ เอ็กซ์โป” ที่นครโอซากา ของญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงไร ขณะเดียวกันเส้นทางแข่งขันขอเป็นเจ้าภาพ “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2030” หรือปี 2573 ก็ลุ้นกันน่าดู ตอนนี้มี 4 ประเทศท้าชิงคือ ซาอุดีอาระเบียส่งกรุงริยาดเข้าประกวด เกาหลีใต้ก็ส่งนครปูซานเข้าประชัน ฝั่งยุโรปก็มีกรุงโรมของอิตาลี และที่เซอร์ไพรส์สุดก็คือเมืองโอเดสซาในยูเครน
ขณะที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย และปูซานก็นับว่าเป็นอีกปลายทางที่หลายคนอยากไปช็อป ชม ชิม เมื่อกลาย เป็นเมืองที่กำลังถูกผลักดันให้เป็นตัวแทนชาติบนเวทีแข่งขันระดับโลกภายใต้ชื่อ “Busan World EXPO 2030” กับธีม “Transforming Our World, Navigating Toward a Better Future” ทุกภาคส่วนของหน่วยงานของเกาหลีใต้ก็ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนักและใช้ทรัพยากรของชาติอย่างเหมาะเจาะถูกจุด เช่น การแต่งตั้ง บีทีเอส วงบอยแบนด์ดังระดับโลกของเกาหลีใต้เป็นทูตกิตติมศักดิ์ รวมไปถึงการกระตุ้นองค์การภาครัฐหรือเอกชนในต่างประเทศจัดทำกิจกรรมโปรโมตและเรียกเสียงสนับสนุนจากนานาชาติเพื่อให้ปูซานสมหวังเป็นเจ้าภาพ สถานทูตเกาหลีใต้และศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีในไทยเองก็มีนิทรรศการ โชว์ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม อาหารของปูซานแท้ให้ชม แวะเวียนไปดูกันได้เลย
...
คาดการณ์ว่าประโยชน์จาก “Busan World EXPO 2030” คือเม็ดเงินมหาศาลและการจ้างงานใหม่หลายแสนตำแหน่ง จากนี้ก็อยู่ที่เสียงโหวตจากชาติสมาชิกของ BIE แล้ว ว่าจะชอบและอยากให้ใครเป็นเจ้าภาพ!
ภัค เศารยะ