เมื่อวันที่ 28 เม.ย. กองทัพซูดานของ พล.อ.อับเดลฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้นำเบอร์ 1 ของซูดาน และกองกำลังติดอาวุธ RSF ของ พล.อ.โมฮาเหม็ด ดากาโล ผู้นำเบอร์ 2 ของซูดาน ตกลงที่จะต่ออายุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวไปอีก 3 วัน หรือจนถึงวันที่ 30 เม.ย. ท่ามกลางรายงานว่าหน่วยรบทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะกันประปรายในเมืองต่างๆรวมถึงกรุงคาร์ทูมและกองทัพซูดานใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม
ทั้งนี้ เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่สงครามชิงอำนาจระหว่างผู้นำกองทัพและผู้นำกองกำลังติดอาวุธที่เคยร่วมมือก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของนายโอมาร์ บาชีร์ เมื่อปี 2564 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศนานาชาติรวมถึงประเทศไทย เร่งอพยพพลเมืองออกจากประเทศซูดาน ซึ่งในวันเดียวกันนี้มีรายงานว่าเครื่องบินลำเลียงพลซี-130 ของกองทัพอากาศตุรกีถูกยิงโจมตีขณะลงจอดที่สนามบินชานกรุงคาร์ทูม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงกลาโหมตุรกีเปิดเผยว่า เครื่องซี-130 ของตุรกีถูกยิงใส่ระหว่างการลงจอดที่สนามบินวาดี เซดนา เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และจากการตรวจสอบพบรอยกระสุนเจาะเข้าที่ระบบน้ำมัน กองทัพซูดานกล่าวหาว่า นักรบ RSF เป็นผู้ก่อเหตุ ขณะที่ฝ่ายหลังกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา และกลุ่ม RSF เคารพการหยุดยิงเพื่อเปิดช่องทางความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
การต่ออายุหยุดยิงยังมีขึ้นระหว่างที่รัฐบาลซูดานใต้ที่แยกตัวเป็นเอกราชจากซูดานเมื่อปี 2554 ได้เสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาสันติภาพ ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางกองทัพซูดานตกลงที่จะส่งตัวแทนไปร่วมการเจรจา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการสู้รบได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 512 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 4,200 คน แต่สำนักข่าวต่างประเทศประเมินว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจริงอาจสูงยิ่งกว่านี้
...
นักวิเคราะห์ความมั่นคงยังเปิดเผยกับสื่อไฟแนนเชียล ไทม์ส ด้วยว่า กองทัพซูดานเป็นทหารที่ติดอาวุธครบเครื่อง กองทัพซูดานก็เพิ่งซื้ออาวุธจากรัสเซียและยูเครน ทั้งครอบครองเครื่องบินรบมิค-29 เครื่องบินโจมตีภาคพื้นดินจากจีน และมีโรงงานผลิตกระสุน อาวุธเบา ไปจนถึงโรงงานผลิตยานเกราะ ส่วนกองกำลังติดอาวุธ RSF เป็นหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วและมีกลยุทธ์รบแบบกองโจร เคยออกปฏิบัติการในประเทศชาด และเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรอาหรับต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธฮูตีในเยเมน ซึ่งข้อเสียเปรียบของ RSF คือนักรบส่วนใหญ่ปฏิบัติการในต่างประเทศและต่างจังหวัด อีกทั้งนักรบส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเยือนกรุงคาร์ทูม ไม่เชี่ยวชาญภูมิประเทศ.