หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาหลีใต้ แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ เกาะเชจู ติดอยู่ในโผ เกาะใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้แห่งนี้ได้ชื่อว่าเกาะแห่งความอุดมสมบูรณ์ 3 อย่าง ซึ่งประกอบด้วยหิน ลม และสตรี เกาะเชจูเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เปี่ยมด้วยความงดงามและความหลากหลายทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งภูมิทัศน์ของภูเขาไฟที่น่าทึ่ง เกาะแก่ง อุทยาน ป่าเขาเขียวขจี และชายหาดอันสวยงาม จนได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เกาะเชจูเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นหน้าเป็นตาของเกาหลีใต้ เต็มไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ตหรูหรา เป็นที่หมายสุดฮิตโดยเฉพาะคู่ฮันนีมูน แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวประมาณ 15 ล้านคน มาเยือนเกาะแห่งนี้ ที่มีประชากรในท้องถิ่นเพียง 660,000 คน แน่นอนว่าความสำเร็จอย่างสูงต้องแลกด้วย ความแออัดยัดเยียด ที่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้กล่าวไว้ว่าเชจูแน่นขนัดไม่ต่างกับช่วง “แบล็กฟรายเดย์” วันลดราคาสินค้าสุดสะพรึงแห่งปีที่สหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ปริมาณขยะล้นเกาะ และมลพิษที่เกิดจากเสียงดังและการจราจรติดขัดที่กลายเป็นเรื่องปกติประจำวัน

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่มีรายงานว่าหน่วยงานท้องถิ่นของเกาะแห่งนี้กำลังพิจารณาข้อบังคับตามกฎหมายอย่างจริงจังที่กำหนดให้ นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นเงินจำนวน 1,500 วอน (ราว 39 บาท) ต่อคืน สำหรับนักท่องเที่ยว และ 5,000 วอน (ราว 130 บาท) ต่อวัน สำหรับการเช่ารถ และ 10,000 วอน (ราว 260 บาท) สำหรับรถมินิแวน ส่วนการเช่ารถบัสคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 5 ของค่าเช่า คาดว่านักท่องเที่ยวแต่ละคนจะถูกเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 8,170 วอนต่อวัน หรือ 212 บาทเท่านั้น

...

ที่จริงมีการพิจารณามาตรการเหล่านี้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2555 แต่ถูกขัดขวางอย่างหนัก กระทั่งมีการพิจารณาอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เตรียมเสนอแผนดังกล่าวต่อรัฐสภาภายในปีนี้ หากผ่านการอนุมัติ คาดว่าจะสามารถนำเงินเข้ากองทุนรัฐบาลได้ประมาณ 141,000 ล้านวอน หรือราว 3,655 ล้านบาท ในปีแรก และจะเพิ่มขึ้นเป็น 154,000 ล้านวอน หรือราว 3,992 ล้านบาท ในปีที่ 2 และ 167,000 ล้านวอน (ราว 4,329 ล้านบาท) ในปีถัดไป

นักท่องเที่ยวที่หมายตาเกาะเชจูแห่งนี้ หรือที่มักเรียกกันว่า “ซัมดาโด” คงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป.

อมรดา พงศ์อุทัย