เกาหลีเหนือกล่าวว่าได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งชนิดใหม่ ซึ่งเป็นอาวุธที่ "ทรงพลังที่สุด" เท่าที่เคยมีมา
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ กล่าวยกย่องการปล่อยขีปนาวุธเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องออกคำสั่งอพยพประชาชนว่า "ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์" ทั้งนี้ ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งสามารถยิงได้เร็วกว่าเชื้อเพลิงเหลว ทำให้ตรวจจับและสกัดกั้นได้ยากขึ้น แต่เกาหลีใต้กล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่และเกาหลีเหนือต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่านี้ในการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็งที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์
ด้านนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า การทดสอบจะทำให้คู่แข่ง "ต้องทนทุกข์ทรมานจากความกลัวและความวิตกกังวลอย่างมาก" โดยนายคิมได้ร่วมสังเกตการณ์และบัญชาการการทดสอบพร้อมกับบุตรสาว ภรรยา และน้องสาวของเขา นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ขีปนาวุธดังกล่าวที่มีชื่อว่า "ฮวาซอง-18" จะสนับสนุนยุทธศาสตร์ทางทหารของเกาหลีเหนือ
เคซีเอ็นเอรายงานว่า การทดสอบขีปนาวุธเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ "ยืนยันประสิทธิภาพของมอเตอร์มัลติสเตจ ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแข็งแรงขับสูง เทคโนโลยีการแยกขั้นตอน และความน่าเชื่อถือของระบบควบคุมการทำงานต่างๆ"
นี่เป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็ง หลังจาการทดสอบขีปนาวุธระยะสั้นที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งมานานหลายปี โดยได้เคยทำการทดสอบไอซีบีเอ็มหลายตัว แต่ขีปนาวุธดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยตัวขับดันของเหลวที่ไม่สามารถเติมเชื้อเพลิงได้เป็นระยะเวลานาน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ เนื่องจากไอซีบีเอ็มที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง จะช่วยให้เกาหลีเหนือสามารถโจมตีสหรัฐฯ ได้โดยไม่มีคำเตือนใดๆ
...
การทดสอบครั้งนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งมีการออกคำสั่งอพยพและต่อมาได้มีการยกเลิกภายใน 30 นาที ส่งผลให้โรงเรียนบนเกาะฮอกไกโดต้องเลื่อนเวลาเปิดเรียน และงดให้บริการรถไฟบางขบวน
ทางการญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง ซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากมีรายงานว่านายคิมออกคำสั่งให้กองทัพของเขาใช้ท่าที "เชิงปฏิบัติและก้าวร้าวมากขึ้น" ในการป้องปรามสงคราม
นอกจากนั้น นี่ยังถือเป็นสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับเกาหลีเหนือ เนื่องจากเป็นวันเฉลิมฉลองการครองอำนาจปีที่ 11 ของนายคิม เกาหลีเหนือจึงมักเฉลิมฉลองวันครบรอบในลักษณะนี้ด้วยการแสดงความก้าวหน้าทางทหาร ขณะที่เกาหลีเหนือกำลังเร่งเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์และสร้างอาวุธที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังวิพากษ์วิจารณ์การฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยกล่าวหาว่าทั้งสองประเทศจงใจสร้างความตึงเครียด
การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดยังมีขึ้น 2 วันก่อนวันคล้ายวันเกิดของนายคิม อิล ซุง อดีตผู้นำและผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ.