สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ เปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งจะมีการซ้อมยิงด้วยกระสุนจริง รวมถึงการโจมตีด้วยจรวดในน่านน้ำทั่วทะเลจีนใต้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสร้างความไม่พอใจให้แก่จีน
การซ้อมรบประจำปีระหว่างพันธมิตรทั้งสองชาติ ที่มีชื่อเรียกว่า "บาลิกาตัน" ซึ่งเป็นภาษาตากาล็อกที่แปลว่า "เคียงบ่าเคียงไหล่" จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน และมีบุคลากรทางทหารเข้าร่วมมากกว่า 17,600 นาย ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพล่าสุดของอเมริกาในเอเชีย หลังสหรัฐฯ เคยกล่าวเตือนจีนหลายครั้งเกี่ยวกับการกระทำที่ก้าวร้าวทั้งในเขตน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และต่อไต้หวัน
คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เสริมสร้างกลุ่มพันธมิตรในอินโดแปซิฟิกเพื่อตอบโต้จีน รวมถึงการเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้นกับไต้หวัน ซึ่งสอดคล้องกับความพยายามของฟิลิปปินส์ภายใต้ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่จะปกป้องผลประโยชน์ทางดินแดนของตนในทะเลจีนใต้ ด้วยการส่งเสริมการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ และอนุญาตให้กองกำลังอเมริกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าประจำการในค่ายทหารของฟิลิปปินส์มากขึ้น ภายใต้สนธิสัญญาป้องกันประเทศปี 2557
กองกำลังทหารสหรัฐฯ ประมาณ 12,200 นาย กองกำลังฟิลิปปินส์ 5,400 นาย และทหารออสเตรเลีย 111 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ และบุคลากรทางทหารจาก 12 ประเทศ เข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ในรอบสามทศวรรษของการซ้อมรบบาลิกาตัน จะมีการจัดแสดงเรือรบ เครื่องบินขับไล่ไอพ่น ขีปนาวุธแพทริออต ระบบยิงจรวดด้วยปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง หรือ ไฮมาร์ส และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง "จาเวลิน"
พันเอกไมเคิล โลจิโก โฆษกของการซ้อมรบบาลิกาตันของฟิลิปปินส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเริ่มการซ้อมรบว่า “เราไม่ได้ยั่วยุใครด้วยการซ้อมรบเพียงอย่างเดียว แต่นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการป้องปราม ซึ่งก็คือการที่เรากีดกันอีกฝ่ายไม่ให้รุกรานเรา"
...
ในการซ้อมยิงจริง กองกำลังพันธมิตรจะปฏิบัตินอกชายฝั่งเป็นครั้งแรก โดยกองกำลังสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์จะจมเรือเป้าหมายขนาด 61 เมตร ในน่านน้ำฟิลิปปินส์นอกชายฝั่งจังหวัดแซมบาเลส ด้วยการโจมตีทางอากาศที่ประสานกันและการระดมยิงด้วยปืนใหญ่
แม้สถานที่ซ้อมรบดังกล่าวซึ่งหันหน้าไปทางทะเลจีนใต้และตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากช่องแคบไต้หวันอาจจะทำให้จีนตื่นตระหนก แต่เจ้าหน้าที่ทหารของฟิลิปปินส์กล่าวว่า การซ้อมรบดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการป้องกันชายฝั่งของประเทศ และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศใดๆ สถานการณ์ภาคสนามดังกล่าวจะทดสอบความสามารถของพันธมิตรในการใช้อาวุธจริง การแบ่งปันข้อมูลและข่าวกรอง การสื่อสารระหว่างหน่วยซ้อมรบ ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนเตือนไม่ให้สหรัฐฯ ส่งกำลังทหารไปยังภูมิภาคนี้ โดยเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า การกระทำของสหรัฐฯ มีแต่จะนำไปสู่ความตึงเครียดมากขึ้น สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคจะน้อยลง
การฝึกซ้อมรบบาลิกาตัน เริ่มขึ้นในฟิลิปปินส์หนึ่งวันหลังจากจีนปิดฉากการฝึกซ้อมรบนาน 3 วันโดยจำลองการปิดล้อมไต้หวัน หลังจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันพบกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทำให้จีนไม่พอใจ
ในวันจันทร์ กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ประจำการเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี "ยูเอสเอส มิเลียส" ภายในระยะ 12 ไมล์ทะเล ของแนวปะการังมิสชีฟ แนวปะการังที่ฟิลิปปินส์อ้างสิทธิ์ ซึ่งจีนยึดได้ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 และกลายเป็น 1 ใน 7 ฐานทัพป้องกันขีปนาวุธของจีน ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ หมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ กล่าวว่า "ตราบใดที่บางประเทศยังคงอ้างสิทธิ์และยืนยันการจำกัดสิทธิที่เกินอำนาจของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ สหรัฐฯ จะยังคงปกป้องสิทธิและเสรีภาพทางทะเลที่รับประกันต่อทุกคน สมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรถูกข่มขู่หรือถูกบีบบังคับให้สละสิทธิและเสรีภาพของตน."