ในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ 50 ปีมาเลเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางไปเยือนจีน โดยมีนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนให้การต้อนรับ นายอันวาร์บอกว่าได้หยิบยกปัญหาอ่อนไหวหลายอย่างขึ้นมาหารือกับนายสี หนึ่งในนั้นก็คือโครงการสำรวจแหล่งพลังงานในทะเลจีนใต้โดยรัฐวิสาหกิจใหญ่เปโตรนาส
รัฐบาลจีนบอกว่าที่มาเลเซียกำลังทำเป็นโครงการสำรวจบนพื้นที่ซ้อนกันในทะเลจีนใต้ การพบกันครั้งนี้ต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยหาทางออกร่วมกัน กระทรวงต่างประเทศมาเลเซียบอกว่าหากมีเหตุปะทะกันระหว่างเรือมาเลเซียและเรือของจีนในบริเวณที่สำรวจแหล่งแร่ มาเลเซียจะร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลจีนให้ได้ทราบ จะได้ไม่นำไปสู่ความบาดหมางกัน
ทะเลจีนใต้เป็นทะเลกึ่งปิด ติดเวียดนามทางตะวันตก ส่วนทางตะวันออกติดฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน โดยมีอินโดนีเซียและมาเลเซียอยู่ทางด้านใต้ มีจีนและไต้หวันอยู่ทางด้านเหนือ เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญมากสายหนึ่งของโลก มีกลุ่มเกาะ 2 แห่งในทะเลจีนใต้ที่เป็นกรณีพิพาทระหว่างรัฐที่เกี่ยวกับอธิปไตยเหนือดินแดนคือหมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะสแปรตลีย์
รัฐที่อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะพาราเซลได้แก่ จีน ไต้หวัน และเวียดนาม
รัฐที่อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ ได้แก่ จีน ไต้หวัน และเวียดนาม ฟิลิปปินส์อ้างสิทธิเหนือภูมิสัณฐานหลายแห่งที่อยู่ภายในกลุ่มเกาะคารายัน มาเลเซียอ้างสิทธิเหนือภูมิสัณฐานหลายแห่ง บรูไนอ้างสิทธิเหนือแนวโขดหิน 2 แห่ง
หมู่เกาะสแปรตลีย์มีกรณีพิพาทหนักกว่าหมู่เกาะพาราเซล และเกี่ยวพันกับหลายประเทศ หมู่เกาะสแปรตลีย์ทำให้จีนมีปัญหากับหลายประเทศเพราะมีแผ่นน้ำติดกับเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ อยู่ตอนเหนือเกาะบอร์เนียวที่มีพื้นที่ทั้งของบรูไนและของมาเลเซีย (รัฐซาบาร์และซาราวัก) หมู่เกาะสแปรตลีย์ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ โขดหิน แนวหิน แนวหินปะการัง สันทรายใต้น้ำ โขดหินปะการังรูปวงแหวน และลักษณะภูมิสัณฐานอื่นๆ มากกว่า 140 แห่งกระจายอยู่บนพื้นที่มากกว่า 4.1 แสนตารางกิโลเมตร
...
สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และตะวันตกหลายประเทศที่จะหยุดยั้งความเจริญก้าวหน้าของจีน ไม่ให้จีนซึ่งเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่น (ที่ไม่ใช่คอเคซอยด์หรือฝรั่ง) ก้าวขึ้นเบอร์หนึ่งของโลก สหรัฐฯและพวกจึงพยายามย้ำแผลปัญหาในทะเลจีนใต้ เพราะรู้ว่านี่คือจุดอ่อนของจีน ถ้าจะเจาะเรือจีนให้รูรั่วก็ต้องเจาะด้วยปัญหาทะเลจีนใต้ ปัญหานี้ทำให้จีนมีความขัดแย้ง
การกระทำของนายกฯอันวาร์ มีทั้งความกล้าและความฉลาด คือกล้าพูดกับจีนตรงไปตรงมา กล้าไปเล่าปัญหาให้ฟังว่ามาเลเซียเป็นประเทศขนาดเล็กมีความจำเป็นต้องหาทรัพยากรเพิ่มทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน การมีโครงการสำรวจพื้นที่ทางแถบนี้จึงมีความจำเป็นมาก
รัฐบาลชุดก่อนๆของมาเลเซียเก็บปัญหานี้ไว้ใต้พรม ไม่ค่อยนำออกมาพูดให้มีความกระจ่างชัด อาจจะเป็นเพราะกลัวจีนโกรธ หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกวันนี้มาเลเซียต้องพึ่งพาจีนเรื่องการส่งสินค้าเกษตรบางประเภทไปให้จีน ในขณะที่สินค้าเกษตรหลายอย่างของมาเลเซียเริ่มมีปัญหาส่งออกไม่ได้เนื่องจากการโดนกีดกันจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ยกตัวอย่างล่าสุดเป็นเรื่องน้ำมันปาล์มที่สหภาพยุโรปอ้างว่ามาเลเซียตัดไม้ทำลายป่าผืนใหญ่เพื่อนำที่ดินมาปลูกปาล์ม สหภาพยุโรปจึงไม่ซื้อน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย มาเลเซียจึงต้องหาตลาดอื่นอย่างตลาดจีนมาทดแทน
นายกฯอันวาร์ประกาศว่ารัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซียให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน และพร้อมจะร่วมมือกับจีนด้านการผลิตรถยนต์ พลังงาน วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การเกษตร และเศรษฐกิจดิจิทัล การเดินทางไปในครั้งนี้ ทั้งประธานาธิบดีสี และนายกฯ อันวาร์ ลงนามในบันทึกความเข้าใจ 19 ฉบับ มาเลเซียบรรลุพันธะกรณีด้านการลงทุน 1.7 แสนล้านริงกิตจากนักลงทุนจีน ซึ่งเป็นเงินทุนก้อนใหญ่ที่สุดที่มาเลเซียได้รับจากภาคธุรกิจของจีน
เดี๋ยวนี้ใครๆก็วิ่งเข้าหารัสเซียกับจีน มาเลเซียก็กลัวตกขบวนเหมือนกัน.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com