สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน สิ้นสุดการเดินทางเยือนรัสเซียแล้ว โดยเขาพบกับวลาดิเมียร์ ปูติน เชิดชูยุคใหม่ของทั้งสองประเทศที่กำลังจะมาถึง และส่งสัญญาณถึงชาติตะวันตก

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน เดินทางเยือนกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 มี.ค. 2566 ก่อนจะเดินทางกลับในวันอังคารที่ 21 มี.ค. ได้เข้าพบปะพูดคุยกับ วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นการส่วนตัวในวันจันทร์ ก่อนจะประชุมโดยมีคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมด้วยในวันต่อมา

การเดินทางเยือนสั้นๆ เพียง 2 วันนี้เกิดเรื่องต่างๆ ขึ้นมากมาย และต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในการพูดคุยกันระหว่าง สี จิ้นผิง กับวลาดิเมียร์ ปูติน

ชูยุคใหม่ความสัมพันธ์ จีน-รัสเซีย

การหารือ 2 วันที่พระราชวังเครมลินเต็มไปด้วยพิธีการ ในขณะที่สี จิ้นผิง กับปูตินกล่าวเชิดชูยุคใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า ความร่วมมือทวิภาคีของรัสเซียกับจีนมีโอกาสและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง และกล่าวอวยพรให้ทั้งสองประเทศเจริญรุ่งเรืองในงานเลี้ยงอาหารเย็นหลังทั้งคู่พูดคุยกัน

การเดินทางเยือนรัสเซียของ สี จิ้นผิง นั้น ถูกมองว่าเป็นการแสดงความต่อต้านชาติตะวันตก ที่กำลังพยายามโดดเดี่ยวรัสเซีย และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับนายปูติน ข้อหาบังคับอพยพเด็กๆ ในยูเครนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายอเล็กซานเดอร์ กาบูเยฟ นักวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวจีน มองว่า หมายจับของกรุงเฮกมีแต่จะทำให้จีนมีอำนาจงัดข้อกับชาติตะวันตกเรื่องรัสเซียได้มากขึ้นเท่านั้น “สี จิ้นผิง สามารถพบปูตินได้โดยไม่เคอะเขิน หมายจับมีแต่ทำให้ ‘เพื่อนรัก’ ของสี จิ้นผิงในเครมลินอยู่ในกำมือของเขามากขึ้นเท่านั้น”

...

ความขัดแย้งในยูเครน

สี จิ้นผิง เรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกจากวิกฤติในยูเครน ขณะที่ปูตินชื่นชมแผนการสันติภาพ 12 ข้อที่จีนเป็นผู้เสนอ โดยระบุว่าสามารถใช้หลักการหลายข้อเป็นพื้นฐานสำหรับการยุติความขัดแย้งในอนาคต หากยูเครนกับชาติตะวันตกพร้อม “แต่จนถึงตอนนี้ เราไม่เห็นความพร้อมเช่นนั้นในส่วนของพวกเขาเลย” ผู้นำรัสเซียกล่าว

ผู้นำทั้งสองคนยังลงนามประกาศฉบับหนึ่ง เน้นย้ำเรื่องความสำคัญในการเคารพความชอบธรรมที่เกี่ยวข้องกับทุกประเทศ และต้องป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามจนเหนือการควบคุม “ทั้งสองคณะ (จีน-รัสเซีย) เรียกร้องให้ยุติขั้นตอนทุกก้าวที่จะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดบานปลาย และทำให้ความเป็นศัตรูยืดเยื้อออกไป เพื่อไม่ให้วิกฤติเลวร้ายไปกว่านี้”

ความร่วมมือด้านความมั่นคงและกองทัพ

ประกาศที่ลงนามโดย สี จิ้นผิงกับปูติน ระบุด้วยว่า ทั้งสองประเทศกังวลกับการเข้ามาแผ่อิทธิพลในเอเชียมากขึ้นของนาโต และกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯ ว่า กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของโลก “ทั้งสองคณะเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดบ่อนทำลายความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ และความมั่นคงทางยุทธศาสตร์โลก เพื่อรักษาความได้เปรียบทางทหารแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ”

สี จิ้นผิง บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมด้วยว่า ในฐานะชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จีนกับรัสเซียจะส่งเสริมโลกกลุ่มอำนาจหลายขั้ว (multipolar world) และสนับสนุนด้านอาหารและความมั่นคงทางพลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียนั้นสำคัญสำหรับระเบียบโลกยุคใหม่และชะตากรรมของมนุษยชาติ

ผู้นำจีนกับรัสเซียบอกด้วยว่า ทั้งสองประเทศจะจัดการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันเป็นประจำ และยกระดับความร่วมมือระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ

ความร่วมมือด้านพลังงาน

ปูติน ซึ่งกำลังหาทางโยกย้ายทิศทางการขายอุปทานพลังงานไปยังเอเชีย หลังถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร กล่าวว่า รัสเซียอาจสามารถตอบโจทย์ความต้องการทรัพยากรพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นของจีนได้ และว่ามีการบรรลุข้อตกลงเรื่องการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ชื่อว่า ‘Power of Siberia 2’ เพื่อส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปจีนผ่านมองโกเลีย

บริษัท แกซพรอม ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย เปิดเผยในวันอังคารว่า พวกเขาทำลายสถิติปริมาณการส่งก๊าซธรรมชาติรายวันให้แก่ประเทศจีน ผ่านท่อส่งก๊าซ Power of Siberia 1 ที่มีอยู่แล้ว

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ปัจจุบันรัสเซียกำลังอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรมากมายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากชาติตะวันตก หลังพวกเขายกทัพรุกรานยูเครน ซึ่งในเรื่องนี้ปูตินกล่าวว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ คือสิ่งสำคัญที่สุดของรัสเซีย

สี จิ้นผิง กับปูติน ลงนามประกาศอีกฉบับ เรื่องการพัฒนาด้านสำคัญๆ ในการร่วมมือทางเศรษฐกิจไปตลอดจนถึงปี 2573 โดยปูตินย้ำเป็นพิเศษเรื่องความร่วมมือภาคการเกษตร โดยระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะยกระดับการส่งออกเนื้อและธัญพืชให้แก่จีน

ปูตินยังบอกว่า ด้วยการรวมกำลังกัน จีนกับรัสเซียอาจกลายเป็นผู้นำด้านไอที และปัญญาประดิษฐ์โลก และว่ารัสเซียอยากใช้เงินหยวนของจีนในการค้าขายในเอเชีย, แอฟริกา และลาตินอเมริกา

ส่วนสี จิ้นผิงกล่าวว่า เขากับปูตินเห็นชอบที่จะยกระดับการวางแผนการอย่างครอบคลุมไปถึงระดับสูงสุด เพิ่มการค้าขายในด้านพลังงานและทรัพยากรต่างๆ

ที่มา : cna

...