- Physical: 100 หรือ ร้อยแกร่งแข่งอึด เป็นซีรีส์เรียลลิตี้แนวเอาตัวรอดจากเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ ที่ฉายใน 78 ประเทศทั่วโลก โดยติดอันดับหนึ่งในสิบในหมวดซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ระหว่างสัปดาห์ที่ 6-12 ก.พ. ที่ผ่านมา
- เกาหลีใต้มีการผลิตรายการในหลากหลายรูปแบบ แต่รายการเหล่านี้สร้างมาเพื่อผู้ชมชาวเกาหลีโดยเฉพาะ และมักจะมีความ "เกาหลีเกินไป" มีการพูดคุยและคำพูดบนหน้าจอมากเกินไป ซึ่งทำให้ยากต่อการแปลและเข้าใจ
- Physical: 100 ยังได้เปลี่ยนมุมมองของ "นา ยองซอก" หนึ่งในผู้ผลิตรายการเรียลลิตี้ทีวีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของเกาหลีใต้ ที่มองเห็นโอกาสในการดึงดูดผู้ชมชาวต่างชาติ ด้วยการดึง "V" หนึ่งในสมาชิกวง BTS มาร่วมในรายการเรียลลิตี้ใหม่ของเขา
สำหรับคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี รวมถึงซีรีส์ หรือรายการเรียลลิตี้โชว์สไตล์เกาหลี เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักรายการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือรายการ Physical: 100
Physical: 100 หรือ ร้อยแกร่งแข่งอึด เป็นซีรีส์เรียลลิตี้แนวเอาตัวรอดจากเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ ที่ฉายใน 78 ประเทศทั่วโลก โดยติดอันดับหนึ่งในสิบในหมวดซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ระหว่างสัปดาห์ที่ 6-12 ก.พ. ที่ผ่านมา
จุดขายหลักของเรียลลิตี้เรื่องนี้ คือการเฟ้นหาผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แบบที่สุดจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 100 คน ที่มาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งนักกีฬาโอลิมปิก อินฟลูเอนเซอร์ในวงการออกกำลังกาย นักผจญเพลิง และผู้คุมเรือนจำ คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของรายการคือการที่ผู้ชายและผู้หญิงได้แข่งขันกันอย่างเสมอภาค
...
โดยผู้ที่ชนะการแข่งขันนี้จะได้รับรางวัล 300 ล้านวอน หรือประมาณ 8 ล้านบาท โดยมีการประกาศผลการแข่งขันในตอนสุดท้ายที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
แม้ว่าผู้ชมทางบ้านจะสังเกตได้ว่า รูปแบบการแข่งขันมีบางส่วนคล้ายกับเกมการเอาชีวิตรอดในซีรีส์ดังอย่าง สควิดเกม แต่รายการเรียลลิตี้นี้ก็ได้มอบประสบการณ์ใหม่ที่ผู้ชมอาจไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน นั่นคือ การใช้สิ่งที่เรียบง่ายที่สุด นั่นคือ ร่างกาย เพื่อฝ่าฟันอุปสรรค วัดกันที่ความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น โดยไม่จำกัดด้วย วัย เพศ หรือ เชื้อชาติ
เนื่องจากการครอบงำของวัฒนธรรมเค-ป๊อป และเค-ดราม่า ความสำเร็จนี้อาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่คาดได้ล่วงหน้า แต่มันไม่ใช่เช่นนั้น แม้รายการเรียลลิตี้หรือรายการวาไรตี้ในเกาหลีใต้จะได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษแล้ว แต่รายการเหล่านั้นไม่เคยดังไปถึงต่างประเทศเลย
เนื่องจากรายการได้รับความนิยมอย่างมากแบบที่ไม่มีใครคาดคิด เน็ตฟลิกซ์จึงรีบรวบรวมผู้เข้าแข่งขัน 50 คนเพื่อพบปะแฟนๆ ริมแม่น้ำในกรุงโซลเมื่อต้นเดือนนี้
โจ จินฮยอง ดีลเลอร์รถยนต์วัย 41 ปี ที่สามารถผ่านเข้าไปในรอบห้าคนสุดท้าย ด้วยการถ่วงก้อนหินหนัก 50 กก. บนไหล่ของเขาเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง บอกว่า "ผมคิดว่ามันจะได้รับความนิยม แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้" เขายอมรับว่า "มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่ผมเคยทำมาในชีวิต ร่างกายของผมชาไปหมด และทั้งชีวิตก็ผ่านไปต่อหน้าผม ผมแค่คิดว่าผมปล่อยผ่านไม่ได้ ผมแพ้ไม่ได้"
ตลอดช่วงบ่าย บรรดาผู้ร่วมแข่งขันให้ความบันเทิงแก่แฟนๆ ด้วยการตีลังกากลับหลัง ในขณะที่มักจะถอดเสื้อออกเพื่อโชว์กล้ามเนื้อ พวกเขารู้ดีว่ามันคือสิ่งที่แฟนๆ ต้องการ
แฟนรายการชาวเกาหลีคนหนึ่ง กล่าวว่า "เธอดูเพราะเต็มไปด้วยคนฮอตมากมาย" แต่นอกจากความฮอตแล้ว ทั้งคู่ยังตื่นเต้นกับความสำเร็จระดับโลกของรายการนี้อีกด้วย "ตอนนี้ทุกคนรู้จักเกาหลีแล้ว มันเจ๋งจริงๆ และไม่ใช่แค่เคป๊อปอีกต่อไปแล้ว นี่เป็นการแสดงอีกด้านของประเทศของเรา"
...
แฟนๆ ในต่างประเทศต่างก็หลงใหลในความมีมิตรภาพระหว่างผู้เข้าแข่งขัน จนถึงจุดหนึ่ง ผู้เข้าแข่งขันสองคนสุดท้ายจะช่วยกันทำภารกิจที่เหน็ดเหนื่อยด้วยการดึงเชือกที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
รายการวาไรตี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการรับชมของผู้ชมทางบ้านในเกาหลี มันถือเป็นการรวมญาติ ทั้งเด็กๆ พ่อแม่ และแม้แต่ปู่ย่าตายาย ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน บรรดาช่องต่างๆ ต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อให้รายการของตนเองมีเอกลักษณ์และสนุกสนานที่สุด พร้อมระดมไอเดียใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
รายการของเกาหลีถูกผลิตขึ้นในหลายรูปแบบ ทั้งเกมโชว์ การแข่งขันความสามารถ และการเข้าถึงชีวิตของผู้คน เป็นการรับชมแบบสบายๆ พร้อมกับแขกรับเชิญที่เป็นคนดัง และแขกรับเชิญที่มีความคิดเฉียบแหลมและมีไหวพริบ เช่นในรายการ "My Little Old Boy" คุณแม่ของเหล่าคนดังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกชาย
จากคำบอกเล่าของผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างที่ได้รับรางวัล "ฮอฮัง" รายการเหล่านี้สร้างมาเพื่อผู้ชมชาวเกาหลีโดยเฉพาะ และมักจะมีความ "เกาหลีเกินไป" มีการพูดคุยและคำพูดบนหน้าจอมากเกินไป ซึ่งทำให้ยากต่อการแปลและเข้าใจ
...
ฮอได้เชิญผู้สื่อข่าวของบีบีซีเข้าไปชมเบื้องหลังการถ่ายทำรายการฮิต ที่มีชื่อว่า "I Live Alone" ซึ่งดำเนินมากว่า 10 ปีแล้ว รายการนี้ติดตามชีวิตประจำวันของคนดังที่อาศัยอยู่ตามลำพัง จากนั้นจะมีการเชิญกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงพอๆ กันเข้ามาในสตูดิโอเพื่อดูคลิปวิดีโอ พร้อมร่วมพูดคุยกัน
ฮอ กล่าวว่า "ผู้คนชื่นชอบรายการของเรา เพราะพวกเขาเห็นว่าชีวิตประจำวันของคนดังไม่ได้แตกต่างไปจากพวกเขามากนัก และเราไม่มีสคริปต์ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องจริงมากๆ"
ในประเทศที่ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 อาศัยอยู่ตามลำพัง รายการนี้จึงนำเสนอสิ่งที่มีความเฉพาะตัวในแบบเกาหลี "ฉันคิดว่ามันไม่ง่ายเลยที่คนต่างชาติจะเข้าใจการใช้ชีวิตของเรา" ฮอ กล่าวเสริม
แม้การแปลสิ่งต่างๆ ที่เป็นภาษาเกาหลีจะไม่ดีนัก แต่ไอเดียและแนวคิดของรายการเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเกาหลีใต้ได้ขายลิขสิทธิ์รูปแบบรายการของพวกเขาในต่างประเทศ เพื่อนำไปสร้างใหม่ เช่นรายการ The Masked Singer ที่บรรดาคนดังต้องปกปิดตัวตนขณะที่ร้องเพลง ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกอย่างหนึ่งของเกาหลีใต้ โดยผู้ผลิตได้ขายสิทธิ์ให้กับกว่า 50 ประเทศ
สำหรับรายการ Physical: 100 เน็ตฟลิกซ์ทราบดีว่ามีผู้ชมจำนวนมากที่กระหายที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเกาหลี ความต้องการของพวกเขามีที่มาจากซีรีส์ "สควิดเกม" และซีรีส์ดังอย่าง "อูยองอู ทนายอัจฉริยะ" (Extraordinary Attorney Woo) โดยเมื่อปีที่แล้ว กว่า 60% ของสมาชิกเน็ตฟลิกซ์ รับชมรายการต่างๆ จากเกาหลี
แพลตฟอร์มสตรีมมิงยังมีรูปแบบการโปรโมตที่รายการทีวีทั่วไปไม่สามารถแข่งขันได้ โดยการถ่ายทำรายการทั้งหมดก่อนออกฉาย พวกเขาสามารถสร้างบทบรรยายและพากย์เสียงตอนต่างๆ และเผยแพร่ต่อผู้ชมทั่วโลกพร้อมกัน เพื่อสร้างความฮือฮาก่อนการฉายจริง
...
ยู กีฮวาน ผู้จัดการฝ่ายคอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์ในเกาหลี กล่าวว่า รายการเรียลิตี้ของเกาหลีกำลังค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวเป็นเทรนด์คอนเทนต์แบบเกาหลีที่มีขนาดใหญ่ ด้านวงการบันเทิงเกาหลีใต้ก็จับตาดูด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน พวกเขาเคยมองเน็ตฟลิกซ์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิงอื่นๆ ในฐานะคู่แข่ง ด้วยความสงสัย แต่ตอนนี้พวกเขากลับกลายเป็นหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "แอมะซอน ไพรม์" (Amazon Prime) ซื้อรายการเรียลลิตี้เกาหลีรายการแรก "Jinny's Kitchen" ซึ่งติดตามชีวิตของกลุ่มคนดัง ในขณะที่พวกเขาพยายามตั้งร้านอาหารเกาหลีริมทางในเม็กซิโก
"นา ยองซอก" โปรดิวเซอร์ชื่อดัง หนึ่งในผู้ผลิตรายการเรียลลิตี้ทีวีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของเกาหลีใต้ ผู้ผลิตรายการนี้ กล่าวว่า เขาไม่เคยคิดเกี่ยวกับผู้ชมต่างประเทศมาก่อน และกับรายการ Jinny's Kitchen เขาตั้งใจที่จะสร้างรายการที่สนุกสนานที่สุดสำหรับผู้ชมชาวเกาหลีของเขา
แต่รายการ Physical 100 ได้เปลี่ยนวิธีคิดของเขา ทันใดนั้นเขาก็เห็นโอกาสในการดึงดูดแฟนๆ ทั่วโลก ด้วยการดึง "V" หนึ่งในสมาชิกของวง BTS มาร่วมรายการในฐานะเด็กฝึกงานร้านอาหาร
เขาพูดติดตลกว่า "เอาจริงๆ ตอนนี้ผมอยากให้ผู้ชมต่างชาติชอบโชว์ของผม ถ้าพวกเขามองว่าไม่สนุกหรือบันเทิง ผมก็จะลองเปลี่ยนรูปแบบดู บางทีผมอาจจะต้องสร้างรายการโชว์แบบเอาตัวรอด"
อุตสาหกรรมนี้เตรียมพร้อมสำหรับความก้าวหน้าในระดับโลก โดยที่บริษัท ซีเจ เอนเตอร์เทนเมนต์ มีโปรดิวเซอร์กว่า 200 คนที่ระดมสมองเพื่อคิดไอเดียใหม่ๆ หากแพลตฟอร์มสตรีมมิงสนใจแนวคิดเหล่านั้น นั่นหมายถึงเงินที่มากขึ้น ที่จะแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นรายการที่ใหญ่และดียิ่งขึ้น
นา ยองซอก กล่าวว่า "เป็นครั้งแรกที่เราคิดว่า มีความเป็นไปได้จริงๆ ที่ผู้ชมต่างชาติสามารถเพลิดเพลินกับรายการเรียลลิตี้ของเกาหลีได้."