ปูตินร่วมพิธีรำลึก 80 ปีศึกที่สตาลินกราด จวกเยอรมนีที่ส่งรถถังมาคุกคามรัสเซียอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะในยูเครน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ. 2566 ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบ 80 ปี การต่อสู้ที่สตาลินกราด หนึ่งในศึกใหญ่ของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกล่าวโจมตีเยอรมนีอย่างดุเดือดที่ช่วยติดอาวุธให้ยูเครน ประกาศอีกครั้งว่าเขาพร้อมใช้อาวุธทั้งหมดของประเทศ รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ และคาดว่ารัสเซียจะชนะศึกนี้

“น่าเสียดายที่อุดมการณ์นาซีในยุคปัจจุบัน และการปรากฏของมันคุกคามความมั่นคงของประเทศเราโดยตรงอีกครั้ง” ปูตินกล่าวต่อหน้าเจ้าหน้าที่กองทัพและสมาชิกกลุ่มเยาวชนและผู้รักชาติท้องถิ่นที่เมืองโวลโกกราด ซึ่งเคยถูกเรียกว่า สตาลินกราดจนถึงปี 2504 “ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราขับไล่การรุกรานจากพวกตะวันตก มันน่าเหลือเชื่อแต่มันคือข้อเท็จจริง เรากำลังถูกคุกคามจากรถถังเลพเพิร์ดของเยอรมนีที่ติดตรากางเขนอีกครั้ง”

ทั้งนี้ หนึ่งในเหตุผลที่ปูตินอ้างเพื่อยกกองทัพบุกโจมตียูเครน คือ การกำจัดนาซีในยูเครน กล่าวหาว่ารัฐบาลเคียฟถูกปกครองโดยกลุ่มนีโอนาซีซึ่งข่มเหงชนกลุ่มน้อยชาวรัสเซียในประเทศ แต่ประธานาธิบดี โวโลดีเมีย เซเลนสกี ผู้เสียพ่อและพี่ชายเพราะกองทัพนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปฏิเสธข้อกล่าวหา

ศึกที่สตาลินกราดเป็นการต่อสู้นองเลือดที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพแดงของโซเวียตสามารถทำลายแนวหลังของกองทัพนาซีเยอรมนีผู้รุกรานได้สำเร็จ แต่ศึกนี้ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านราย

ในการกล่าวสุนทรพจน์ ปูตินกล่าวว่า เขาจะปลุกจิตวิญญาณของผู้ปกป้องแห่งสตาลินกราดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่ออธิบายว่าทำไมเขาจึงเชื่อว่ารัสเซียจะได้รับชัยชนะในยูเครน พร้อมระบุว่าศึกที่สตาลินกราดได้กลายเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงนิสัยที่ไม่อาจถูกทำลายได้ของชาวรัสเซีย

...

“เหล่าผู้ที่ดึงชาติยุโรป รวมถึงเยอรมนี เข้าสู่สงครามใหม่กับรัสเซีย และ ... คาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะเหนือรัสเซียในสมรภูมินั้น ดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าการทำสงครามยุคใหม่กับรัสเซีย จะค่อนข้างแตกต่างออกไปสำหรับพวกเขา” ปูตินกล่าวและเสริมว่า “เราไม่ส่งรถถังไปยังชายแดนของพวกเขา แต่เรามีวิธีตอบสนอง และมันไม่จบแค่การใช้รถหุ้มเกราะ ทุกคนต้องเข้าใจเรื่องนั้น”

ที่มา : cna, bbc