สถานการณ์ในแอฟริกาตะวันออกร้อนระอุ หลังรวันดายิงมิสไซล์ระเบิดเฉียดเครื่องบินรบของดีอาร์คองโกที่พวกเขาอ้างว่า รุกล้ำน่านฟ้า ทำให้ฝ่ายหลังออกมาประณามว่าเป็นเหตุแห่งสงคราม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 25 ม.ค. 2566 ว่า รวันดายิงมิสไซล์เข้าใส่เครื่องบินขับไล่ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) ที่พวกเขาอ้างว่า รุกล้ำน่านฟ้าของประเทศ เคราะห์ดีที่มิสไซล์พลาดเป้าแต่เหตุการณ์นี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว ร้อนระอุขึ้นไปอีก
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็น เครื่องบินรบ SU-25 ถูกยิงด้วยจรวดขณะบินต่ำระหว่างเมืองโกมา ของดีอาร์คองโก และเมืองกีเซนยี ของรวันดา นอกจากนั้นยังมีภาพแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กำลังใช้น้ำดับไฟที่ลุกไหม้ปีกด้านขวาของเครื่องบินลำนี้ หลังจากมันลงจอดที่สนามบินโกมา
ด้านทางการของดีอาร์คองโกออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องรุกล้ำน่านฟ้าของรวันดา และประกาศว่า การกระทำของรวันดานั้นคือ เหตุแห่งสงคราม (act of war) พร้อมกล่าวหาว่า รวันดากำลังบ่อนทำลายการบังคับใช้ข้อตกลงสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งเพิ่งมีการตกลงกันในการเจรจาเมื่อไม่นานมานี้
กระทรวงสารสนเทศของดีอาร์คองโก บอกด้วยว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกมีสิทธิ์ที่จะป้องกันดินแดนของชาติ และจะไม่ยอมถูกข่มขู่ “รัฐบาลถือว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งจากรวันดาเป็นการจงใจ”
ฝ่ายรวันดาก็ออกมาตอบโต้เช่นกัน ระบุว่านี่นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เครื่องบินรบของดีอาร์คองโกรุกล้ำน่านฟ้าของพวกเขา โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เพิ่งเกิดเหตุเครื่องบิน SU-25 อีกลำของดีอาร์คองโก ลงจอดที่สนามบินในเมืองกีเซนยี ซึ่งรัฐบาลดีอาร์คองโกออกมาชี้แจงในตอนนั้นว่า เป็นการลงจอดด้วยความผิดพลาด
...
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รวันดากับดีอาร์คองโกเข้าใกล้การเผชิญหน้ากันโดยตรงมากที่สุดในรอบหลายปี ตามหลังเหตุความรุนแรงนานหลายเดือนฝีมือกลุ่มกบฏ M23 ในภาคตะวันออกของดีอาร์คองโก เมื่อปี 2565 ซึ่งทำให้ประชาชนกว่า 400,000 คน ต้องหนีจากถิ่นที่อยู่ โดยดีอาร์คองโก, สหรัฐฯ และสหประชาชาติ กล่าวหารวันดาว่าสนับสนุนกบฏกลุ่มนี้
ที่มา : bbc