รีด แฮสติงส์ ประกาศเตรียมก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาช่วยก่อตั้งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว การประกาศของเขาเกิดขึ้นในขณะที่เน็ตฟลิกซ์รายงานจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปลายปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า ผู้ใช้เน็ตฟลิกซ์จะยกเลิกการใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่กลับพบว่าเน็ตฟลิกซ์สวนกระแสดังกล่าว โดยมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 7 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก

แฮสติงส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า บริษัทเผชิญบททดสอบหลายอย่าง ทั้งจากโควิดและความท้าทายด้านธุรกิจ แต่มันก็ได้รับการจัดการได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ดังนั้นคณะกรรมการและเขาเชื่อว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะหาผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา

ข่าวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เน็ตฟลิกซ์รายงานตัวเลขผลประกอบการว่า มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 7.66 ล้านคนในไตรมาสที่สี่ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.57 ล้านคน หลังจากหลายรายการประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย เช่น สารคดีเรื่อง "Harry & Meghan" ซีรีส์เรื่อง "Wednesday" และภาพยนตร์เรื่อง "Glass Onion" ขณะที่มีสมาชิกแบบชำระเงินทั้งสิ้นราว 231 ล้านราย

ขณะที่รายได้ของบริษัทระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 257,837 ล้านบาท เป็นไปตามการประมาณการของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% หลังการประกาศดังกล่าว

นายแฮสติงส์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสตรีมมิงในยุคแรกๆ และถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารต่อไป ขณะที่ "เกร็ก ปีเตอร์ส" ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท และ "เท็ด ซาแรนดอสช" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหา จะร่วมกันนั่งในตำแหน่งซีอีโอร่วม ทั้งนี้ ซาแรนดอส ได้เลื่อนขั้นเป็นซีอีโอร่วมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563

...

บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า "ปี 2022 เป็นปีที่ยากลำบากด้วยการเริ่มต้นที่ไม่ราบรื่น แต่จบลงด้วยดี" บริษัทได้รับแรงกดดันหลังจากสูญเสียลูกค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 หุ้นของบริษัทร่วงลงเกือบ 38% ในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์จะเริ่มเปิดตัวฟีเจอร์ต่างๆ ในไตรมาสนี้เพื่อจูงใจและเปลี่ยนผู้แชร์รหัสผ่านที่มีอยู่จำนวนมาก ให้เป็นผู้สมัครสมาชิกแบบชำระเงิน ด้านนายปีเตอร์ส กล่าวว่า เขาเข้าใจดีว่านี่อาจจะไม่ใช่ "การเคลื่อนไหวที่ได้รับเสียงชื่นชมมากนัก" เมื่อเปรียบเทียบกับการขึ้นราคาค่าสมาชิก ซึ่งอาจทำให้การยกเลิกสมาชิกมีจำนวนสูงขึ้นในระยะเวลาหนึ่ง แต่แลกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น.