สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของนายเจิง กวาง อดีตหัวหน้าฝ่ายการแพร่ระบาดประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน ที่ยืนยันว่า จุดพีกการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และอีกไม่นานเชื้อไวรัสก็จะกระจายไปยังพื้นที่ชนบทที่ระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพไม่เท่ากับเมืองใหญ่ อาจถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานสาธารณสุขต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ชนบท

การเปิดเผยของอดีตหัวหน้าฝ่ายประจำซีดีซีจีนมีขึ้นในขณะที่ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง บ่งชี้ว่า จนถึงวันที่ 11 ม.ค. มีชาวจีนติดเชื้อโควิด-19 คิดเป็นสัดส่วน 64% ของประชากร หรือประมาณ 900 ล้านคน มณฑลที่มีสัดส่วนติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ มณฑลกานซู ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ติดเชื้อสัดส่วน 91% มณฑลยูนนาน ภาคใต้ ติดเชื้อสัดส่วน 84% และมณฑลชิงไห่ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ติดเชื้อสัดส่วน 80% ขณะที่ทางการจีนระบุว่า ยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค สหรัฐฯ จะเริ่มจำหน่ายในจีนตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.

วันเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ว่า มีบางภาคส่วนแสดงความกังวลว่า เราไม่ควรรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าประเทศมาเลเซีย เนื่องจากกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กรณีนี้อยากขอร้องอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป รัฐบาลมาเลเซียไม่สามารถออกมาตรการพิเศษมาควบคุมนักท่องเที่ยวจีนได้ เพราะมองว่าเป็นการไม่ยุติธรรม รัฐบาลให้ความสำคัญอันดับหนึ่งแก่สุขภาพของประชาชนและจนถึงวันนี้ก็ไม่มีรายงานนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนติดเชื้อโควิด-19

ส่วนกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียชี้แจงว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสในมาเลเซียอยู่ในระดับควบคุมได้ ไม่มีความจำเป็นต้องปิดพรมแดน และตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเลเซียมาแล้วกว่า 7,000 คน ไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด

...

ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็มจี สื่อหลักของจีนรายงานว่า เจ้าของร้านค้าชาวเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงผู้ประกอบการรถทัวร์ของไทยอยู่ในกลุ่มคนที่ยินดีกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของจีน เนื่องจากเป็นโอกาสที่ธุรกิจต่างๆทั่วเอเชีย จะกลับมาเชื่อมต่อกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอีกครั้งและจีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก การไม่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องหยุดชะงักลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา.