น่าจับตาการปรับท่าทีด้านการเมืองระหว่างประเทศของจีน แต่ยังคงยุทธศาสตร์หลัก การขยายอิทธิพล ทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจต่อไป
จากแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า นายฉิน กัง รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของจีน ต่อสายสนทนากับ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ
ยืนยันว่าจีนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐฯ
ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเคน ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ ตอกย้ำว่าทั้ง 2 ฝ่าย ได้หารือกันเกี่ยวกับการรักษาประสิทธิภาพด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
สำหรับประวัติของนายฉิน กัง เคยดำรงตำแหน่งเอกอัคร ราชทูตจีน ประจำกรุงวอชิงตัน
ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็น รมว.ต่างประเทศ ในยุคที่สามของ “ประธานาฯสี จิ้นผิง”
โดยขยับ นายหวัง อี้ อดีตมนตรีแห่งรัฐ และ รมว.ต่างประเทศจีน ขึ้นไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการฝ่ายการต่างประเทศกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดด้านการต่างประเทศของจีน ที่จะคุมนโยบายด้านต่างประเทศในภาพรวม
นับเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญและครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ
ก่อนหน้านี้นายหวัง อี้ คือกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่งที่ออกมาตอบโต้กับสหรัฐฯอย่างถึงพริกถึงขิง แทบจะทุกประเด็นร้อน
จนสร้างความร้อนแรง-ตึงเครียด ไปทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลก
แต่จากการปรับท่าทีใหม่ของนายหวัง อี้ ที่เรียกร้องให้มีการเจรจาหารือกับสหรัฐฯเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
ซึ่งสื่อของจีนอย่าง หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ มองว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดี ว่าจีนต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ
การเปลี่ยนแปลงท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศจีน ส่อเค้าว่าจีนจะหวนกลับไปดำเนินกลยุทธ์ทางการทูตแบบถ้อยที ถ้อยอาศัย
...
หลังปะฉะดะกับสหรัฐฯด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวมาตลอดในช่วงหลัง
ทั้งในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ ปมพิพาทภูมิรัฐศาสตร์ไต้หวัน
รวมถึง สงครามการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ไปจนถึง ธุรกิจเทคโนโลยี
ทำให้ถูกมองว่า โลกแบ่งเป็น 2 ขั้วใหญ่ คือ “สหรัฐฯ+ ยุโรป+ชาติพันธมิตร” และ “จีน+รัสเซีย+พันธมิตร”
ทำให้ประเทศต่างๆที่เหลือต้องเลือกข้างด้วยหรือไม่
โดยเฉพาะประเทศไทยในช่วง 8 ปี หลังรัฐประหารมานี้ ถูกมองว่า “โปรจีน” หนัก เพราะต้องพึ่งพาอาศัยจีนเป็นหลังพิง เนื่องจากเป็นรัฐที่มาจากการยึดอำนาจ ไม่ได้รับการยอมรับจากชาติตะวันตก
แต่เมื่อทิศทางลมการเมืองโลกกำลังจะเปลี่ยนไป
และต้องไม่ลืมว่า สหรัฐฯคือคู่ค้าที่สำคัญมากของจีน และจีนเป็นเจ้าหนี้ใหญ่สุดของสหรัฐฯ
ทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจ คงไม่ต้องการให้ใครล้มหายตายจาก
ทุกอย่างมันแค่เกมดุลอำนาจภายในของแต่ละฝ่ายมากกว่า
คงถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องปรับดุลอำนาจการเมืองกันใหม่.
เพลิงสุริยะ