ในที่สุด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็ยอมผ่อนคลายกฎเหล็ก “โควิดเป็นศูนย์” (Zero Covid Policy) ที่ใช้มากว่า 3 ปี ล็อกดาวน์เมืองล็อกดาวน์ประเทศสู้กับโควิด จนเศรษฐกิจจีนเสียศูนย์เสียหายกันทั้งประเทศ ทำให้ประชาชนทนไม่ไหวต้องออกมาประท้วงแบบไม่กลัวกฎเหล็ก ล่าสุด คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดทุกสัปดาห์ เช่น ห้ามกำหนดพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง ยกเลิกการแสดง “รหัสสุขภาพ” เพื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือเข้าไปในศูนย์การค้า อนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงกักตัวในบ้าน แทนการส่งตัวไปยังสถานที่กักกันของภาครัฐ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนสั่งปิดแอปติดตามตัวประชาชนบนโทรศัพท์มือถือ ประชาชนสามารถเดินทางข้ามเมืองเข้าออกประเทศได้อย่างเสรี เป็นต้น

ทำไม? ผู้นำจีนจึงต้องเร่งเปิดประเทศเร็วขนาดนี้ ทั้งที่เข้มงวดมา 3 ปี วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปหาคำตอบกันครับ

การปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดเศรษฐกิจ ปิดประเทศ ส่งผลให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ไม่มีการเดินทางระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศก็ทรุดฮวบ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประชาชนทุกครัวเรือนและบริษัทมากมายขนาดไหน คนไทยได้ลิ้มรสมาแล้วเราปิดประเทศมาแค่ปีเศษ ยังเจอพิษเศรษฐกิจสาหัสขนาดนี้ ประเทศจีนมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ปิดประเทศมานานถึง 3 ปี ความเสียหายจากเศรษฐกิจจะมากมายมหาศาลขนาดไหน

ซีเอ็นเอ็น บิสซิเนส รายงานจากฮ่องกงว่า นับตั้งแต่จีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และการตรวจเชื้อโควิดทุกคน ผู้เชี่ยวชาญจาก ศูนย์การศึกษาจีน มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ได้เพิ่มความเสี่ยงให้กับความมั่นคงทางการเงินของจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรัฐบาลท้องถิ่นที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการต่อสู้กับโควิดให้เป็นศูนย์

...

ข้อมูลจาก กระทรวงการคลังจีน ระบุว่า 10 เดือนแรกของปีนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีนทั่วประเทศมีการใช้จ่ายในนโยบายโควิดเป็นศูนย์สูงถึง 11.8 ล้านล้านหยวน หรือ 1.65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินบาทก็ 59.4 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายมหาศาลที่สูงกว่ารายได้ ส่งผลให้รัฐบาลจีนมีหนี้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉพาะค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้อโควิด 10 เดือนแรกของปีนี้ก็ปาเข้าไปสูงถึง 1.75 ล้านล้านหยวน หรือ 245,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทก็ราว 8.82 ล้านล้านบาท

นายส้าวเหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บล.ซิโนลิ้งค์ นครเซี่ยงไฮ้ คาดว่า การขาดดุลการคลังของจีนในปี 2022 จะเกิน 10 ล้านล้านหยวน หรือเกิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ กว่า 50.4 ล้านล้านบาทไทย ยังไม่นับ ค่าลดหย่อนภาษีอีก 3.7 ล้านล้านหยวน หรือ 524,000 ล้านดอลลาร์ ราว 18.86 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลจีนมอบให้กับบริษัทต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

ข้อมูล กระทรวงการคลังจีน ระบุว่า การขาดดุลการคลังที่สูงและจีดีพีเติบโตต่ำจะทำให้รัฐบาลจีนมีหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 50.6% ของจีดีพีในปีนี้ จาก 38.1% ในปี 2019 นอกจากนี้ 10 เดือนแรกของปีนี้รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นได้ขาดดุลการคลังไปแล้ว 6.66 ล้านล้านหยวน หรือ 944,000 ล้านดอลลาร์ 33.98 ล้านล้านบาท เกือบ 3 เท่าของหนี้รัฐบาลในปีที่แล้ว เห็นหรือยังครับ ทำไมจีนต้องเร่งเปิดประเทศหาเงินแบบด่วนจี๋เช่นนี้

ข่าวจากฮ่องกงเปิดเผยว่า จีนและฮ่องกงจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามพรมแดนไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องกักตัวอย่างเร็วที่สุดวันที่ 9 มกราคม 2566 ก่อนจะถึง วันตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 22 มกราคม นักเศรษฐศาสตร์จาก โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนไปฮ่องกงได้ จะทำให้จีดีพีฮ่องกงปรับขึ้นประมาณ 7.6% จากรายได้การส่งออกและการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น

ผมคิดว่า นักท่องเที่ยวจีนอาจเลยมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงตรุษจีนนี้ก็เป็นไปได้ เราควรเตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวนักท่องเที่ยวจีนแห่มาเป็นแสนเป็นล้านคนจะต้อนรับไม่ทัน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”