อังคารเมื่อวาน ผมรับใช้ถึงเรื่องวิคเตอร์ บุท ซึ่งถูกจับในไทยเมื่อ 6 มีนาคม 2008 ระหว่างที่ถูกขัง มีนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลไปหาบุทถึงเรือนจำ ขอให้บุทปรักปรำอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ถ้าบุทรับปรักปรำ รัฐบาลก็พร้อมที่จะทำให้ไม่ต้องถูกส่งตัวไปสหรัฐฯ

สาเหตุของการจับบุท ความจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครสนใจที่จะพูดถึงกันแล้วเพราะความจริงของแต่ละคน แต่ละกลุ่มมันต่างกัน และซับซ้อนเกินกว่าที่จะนำมาเขียนมาพูด เอาเป็นว่า ตั้งแต่ธันวาคม 2007 ทหารไทยบินไปดูงานการผลิตอาวุธรัสเซียกันอย่างเอิกเกริก เรื่องนี้ทำให้สหรัฐฯกังวลใจ ในอนาคต ไทยอาจเปลี่ยนนโยบายการซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ มาเป็นการซื้อจากรัสเซีย

หลังจากจบจากโรงเรียนทหาร บุทถูกส่งไปประจำการที่สาธารณรัฐโมซัมบิก พอได้ยศเรืออากาศโท สถานะของสหภาพโซเวียตง่อนแง่นและล้มครืนเมื่อ 24 ธันวาคม 1991 (กอร์บาชอฟมีแถลงการณ์ลาออกจากประธานาธิบดีเมื่อ 25 ธันวาคม 1991) บุทตัดสินใจลาออกจากราชการแล้วมาตั้งบริษัทขนส่งทางอากาศ เริ่มต้นจากการเช่าเครื่องบินที่จอดระเกะระกะอยู่ตามสนามบินของสาธารณรัฐของอดีตสหภาพโซเวียตมาให้บริการ โดยจดทะเบียนบริษัทที่ราชอาณาจักรเบลเยียม และตั้งฐานการบินที่สนามบินออสเทนด์ของเบลเยียมนั้นเอง

ใครจะเช่าเครื่องบินขนส่งอะไรไปที่ไหนยังไง บุทก็จะจัดส่งเครื่องบินจากสนามบินออสเทนด์ไปให้บริการ ทว่าเบลเยียมก็ยังตั้งอยู่ค่อนไปทางเหนือของโลก ทำให้การให้บริการที่จะบินไปในซีกโลกใต้ต้องใช้ระยะการบินไกล บุทจึงเปลี่ยนฐานการจอดเครื่องบินจากสนามบินออสเทนด์ ไปที่สนามบินชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

บุทเกิด ค.ศ.1967 โซเวียตล่มตอนบุทอายุ 24 ปี ตอนที่ถูกจับ บุทอายุ 41 ปีปัจจุบันอายุ 55 ปี มีความรู้ทางเครื่องบิน ใครมีเครื่องเก่าจะขาย บุทจะบินไปดูสภาพ ถ้าพอนำเครื่องมาโอเวอร์ฮอลได้ บุทก็จะซื้อ หรือถ้าสภาพตัวถังยังดี แต่เครื่องยนต์แย่ บุทก็เอาเครื่องยนต์ที่ซ่อมแล้วไปเปลี่ยนและใช้ขนส่งทั่วโลก

...

บุทเป็นเจ้าของกลุ่มบริษัทสายการบินขนส่ง ลูกค้าจะส่งอะไร บริษัทของแกก็จัดส่งให้ ช่วงที่หน่วยงานของสหประชาชาติขนวัวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปแจกจ่ายในทวีปแอฟริกา กลุ่มบริษัทขนส่งของบุทก็รับจ้างขน บุทรับจ้างทั้งงานทหารและงานพลเรือน

การเข้าไปประมูลงานการขนส่ง ย่อมโดนเรียกคอมมิชชัน บางครั้งก็โดนไถจากหน่วยงานระหว่างประเทศ ถ้าไถน้อยตามเป็นธรรมเนียม บุทก็ให้ นักไถบางคนมาในคราบของนักสังเกตการณ์ที่ทำงานกันเป็นแก๊ง เมื่อไถแรงไป บุทก็จะปฏิเสธ

ที่ขัดแย้งอย่างแรงกับบุทก็คือ นักสังเกตการณ์ด้านความมั่นคงของสหประชาชาติชาวเบลเยียม เมื่อไม่ได้ตาม ‘จำนวน’ ที่เรียกร้อง นักสังเกตการณ์ฯ ก็เสนอรายงานเรื่องการขนส่งทางอากาศกับความมั่นคงไปยังหน่วยงานของสหประชาชาติ ว่าเครื่องบินของกลุ่มบริษัทขนส่งของบุทรับจ้างขนอาวุธ ต่อมาก็รายงานว่าบริษัทของบุทขายอาวุธ พวกนี้เป็นข้อมูลที่ทางการสหรัฐฯอยากได้ เพื่อจะใช้เป็นความชอบธรรมเล่นงานรัสเซีย

ตั้งแต่ธันวาคม 2007 ผู้แทนจากกองทัพไทยทั้งทหารบก เรือ และอากาศ ได้รับเชิญให้เดินทางไปดูงานด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่รัสเซีย ถ้าไทยหันไปซื้ออาวุธรัสเซีย สหรัฐฯซึ่งเป็นผู้ค้ารายเดิมจะเสียประโยชน์ แผนการเชือดไก่ให้ลิงดูจึงเกิดขึ้น มีการวางพล็อตและแจ้งสารไปถึงบุทว่ามีเครื่องบินเก่าลำหนึ่งต้องการจะขาย จอดอยู่ในไทย ถ้าอยากได้ ก็ขอให้บุทบินมาดู

พ่อผมบังเอิญนั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯเที่ยวเดียวกับบุท โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ถึงเมืองไทยได้ไม่กี่ชั่วโมง ผู้คนจากสถานทูตรัสเซียก็โทร.มาบอก ว่าบุคคลสัญชาติรัสเซียที่มีชื่อว่าวิคเตอร์ บุท ถูกกองบัญชาการสอบสวนกลางจับกุม พ่อของผมโทร.ไปสอบถามตามข่าวจากผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (พลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์) และนายเวร (พันตำรวจเอกอัครวุฒิ หลิมรัตน์) ก็ได้รับคำตอบว่า เราจับตามคำขอของหน่วยงานราชการสหรัฐฯ พรุ่งนี้มาต่อครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com