เมื่อวันที่ 9 พ.ย. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างข้อมูลกลุ่มช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมว่า ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงและการโจมตีของกองทัพรัสเซียที่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานยูเครนอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ภูมิภาคยุโรปตะวันออกเผชิญกับคลื่นผู้อพยพชาวยูเครนระลอกใหม่ ขณะที่ข้อมูลปัจจุบันบ่งชี้ว่า ในตอนนี้มีชาวยูเครนกว่า 6.9 ล้านคน พลัดจากถิ่นที่อยู่อาศัย แต่ยังไม่เดินทางอพยพออกนอกประเทศ
ขณะที่ยอดชาวยูเครนอพยพออกนอกประเทศอยู่ที่ 300-500 คนต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 เท่า หลังจากรัสเซียเริ่มกลยุทธ์ตัดไฟ ด้านนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวแทนจากสหรัฐฯและรัสเซียจะจัดการประชุมหารือเกี่ยวกับข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งจะเป็นการหารือครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนเมื่อ
วันที่ 24 ก.พ.