ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้กองทัพรัสเซีย อาจไม่มีวันฟื้นกลับมาแข็งแกร่งได้เช่นเดิม เพราะสูญเสียรถถังกว่าครึ่งและขีปนาวุธส่วนใหญ่ไปแล้วในสงครามยูเครน

เมื่อ 9 พ.ย. 2565 เดลี่เมล รายงาน ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โคลิน คาห์ล เปิดเผยถึงสถานการณ์ของกองทัพรัสเซียที่ได้รับความสูญเสียอย่างหนักในสงครามยูเครนว่า กองทัพรัสเซียอาจไม่มีวันที่จะฟื้นจากความเสียหายที่ได้รับจากสงครามยูเครน เพราะขณะนี้ รถถังกว่าครึ่งหนึ่ง รวมทั้งขีปนาวุธที่มีความแม่นยำของรัสเซียส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายไปแล้ว นับตั้งแต่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจส่งกองกำลังทหารรัสเซียบุกยูเครน เมื่อ 24 ก.พ. 2565

คาห์ล ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่รัสเซียถูกคว่ำบาตร หมายถึง รัสเซียจะประสบความยากลำบากในการเสริมสร้างกองทัพให้มีความแข็งแกร่งได้เช่นเดิมเท่ากับเมื่อตอนก่อนจะทำสงครามยูเครน

‘ปูตินทำสงครามครั้งนี้เพื่อพยายามดับยูเครน ในฐานะเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีเอกราช และอธิปไตย แต่เขาล้มเหลว และไม่สามารถที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้’ ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว พร้อมกับบอกว่า ตัวเลขที่แท้จริงในความสูญเสียของรัสเซียจากการทำสงครามในยูเครนผ่านมา 8 เดือนนั้นไม่แน่ชัด แต่คิดว่ากองทัพรัสเซียสูญเสียอย่างสูง

เดลี่เมล ระบุว่าหากย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้ว่า มีทหารรัสเซียถูกสังหาร และได้รับบาดเจ็บในสงครามยูเครนไปแล้วถึง 75,000 นาย แต่นับจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ไม่ได้อัปเดตปรับตัวเลขข้อมูลการสูญเสียทหารรัสเซียอีกเลยจนถึงปัจจุบัน

...

ในขณะที่ รัฐบาลยูเครนก็อ้างว่า รัสเซียได้สูญเสียรถถังไปแล้วประมาณ 2,800 คัน ยานลำเลียงหุ้มเกราะกว่า 5,500 คัน และยานยนต์ขนาดเล็ก 4,000 คัน

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชาติตะวันตก และยูเครนชี้ว่ารัสเซียได้สูญเสียทหารในสงครามยูเครนไปแล้วหลายหมื่นนาย แต่ทางรัสเซียยังคงปฏิเสธ โดยอ้างว่าได้สูญเสียทหารไปแล้วเพียงประมาณ 6,000 นายเท่านั้น แต่ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินกลับมีการประกาศระดมกำลังพลสำรองนับ 300,000 นาย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเสริมกำลังในแนวหน้า